สำหรับหลายการแข่งที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงการมาของทีมที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของผู้เล่นเอง และสองรายชื่อทีมที่ดังขึ้นมา นั่นก็คือ 5men และ Among Us ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างผู้เล่นที่กำลังตกงาน ข้ามโซนไม่ได้ หรือรอทีมใหม่อยู่
ทำไมจึงต้องเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะทั้งสองทีมที่ตั้งขึ้นมาแบบกะขอไปที ดันประสบความสำเร็จกว่าทีมที่มี Branding ชัดเจน ถ้าให้เทียบเราลองนำ 5men ไปวัดเชิงกับ B8 ของเฮีย Dendi
หรือถ้าเป็น Among Us ก็ต้องเทียบกับ Fnatic คงไม่ต้องบอกเลยว่าทีมไหนจะชนะแถม Fnatic ยังถือเป็นทีม Tier 1 ใน SEA Server อีกด้วย(แม้ตอนนี้จะดูว่าไม่ใช่แล้วก็ตาม)
เหตุใดถึงต้องจับคู่แบบนี้? เพราะ Fnatic กับ B8 เป็นทีม Official มีผู้สนับสนุน และเป็นค่ายใหญ่ที่พึ่งฟอร์ม Roster ใหม่มาทั้งคู่
เทียบกันกับ Among Us และ 5men พวกเขาเกิดจากการรวมตัวแบบกระทันหันของสุดยอดผู้เล่นที่ยังรอไปรวมที่ในอนาคต ไม่มีป๋ามาผลักมากเท่าไหร่ แถมยังไม่มีข้อมูลใน Liquipedia ด้วยซ้ำ ดังนั้นถึงใหม่แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไปกันทีละคู่
ลองนำเกมที่ 5men เคยเจอ B8 มาดูกันกับ OMEGA League: Europe Closed Qualifier ใน Bo3 รอบเก็บคะแนน สำหรับตอนนั้น 5men ยังไม่น่าจับตามองมากเท่าไหร่ พวกเขาเป็นแค่ทีม All Star ที่ตกงานมาจาก Cloud9 และ OG.Seed
แต่ผลงานที่เกิดขึ้นนั้นเป็นที่น่าพอใจคนดูอย่างมาก แม้ว่าการเล่นที่ดูแล้วเก็บรายละเอียดไม่ดีเท่าไหร่เพราะผลจากการที่พึ่งฟอร์มทีมขึ้นมา แต่เพียงพอที่จะพาพวกเขาไปสู่ชัยชนะและตบ B8 ไปที่ 2:1 ด้วยการเล่นที่เข้ากันได้แบบแปลก ๆ กับการวาง Combo ดี ๆ หลายจังหวะ ทำให้พวกเขากลายเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าติดตาม
แน่นอนว่าพวกเขาได้เข้าไปใน Immortal Division จากการตบ Cyber Legacy อีกหนึ่งทีมระดับกลางไปด้วยคะแนน 2:0 นอกจากนั้นพอผ่านเขาไปใน Main Event หรือ Immortal Division ก็ยังโชว์โหดเก็บทีม Alliance Na’Vi
น่าเสียดายที่พลาดท่าให้กับ Team Liquid ในรอบ Play-in Stage และไม่ได้ไปต่อ
ทีนี้ มาดูเกมที่ Fnatic เจอกับ Among Us ในรายการ BTS Pro Series Season 3: SEA ตอนที่ Fnatic เตะ อนุชา “Jabz” จิระวงศ์ และ หนึ่งนรา “23savage” ธีรมหานนท์ ออกจากทีม
ทั้งสองไปได้รวมตัวกับ “Abed” Azel L. Yusop อดีตผู้เล่นของ Fnatic เช่นกันที่ตอนนี้ได้อยู่ในสังกัตใหญ่อย่าง Evil Geniuses แต่เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปร่วมทีมที่อีกซีกโลกหนึ่งได้ และนำผู้เล่นน้ำดีจาก GeekFam ที่ตอนนั้นทีมกำลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ อย่าง Carlo “Kuku” Palad และ Matthew “Whitemon” Filemon
ผลคือ พวกเขาตบทีม Fnatic ถึง 2:0 และไม่แพ้ให้ทีมใดใน Group Stage แม้แต่ Series เดียว จนกลายเป็นผู้นำกลุ่มไป แต่ก็ไปพ่ายในรอบ Playoffs จากทั้ง Boom Esports และ MTG ตัวแทนทีมไทย และกลายเป็นอันดับสาม
อันดับ 3 นี่มันถือเป็นเรื่องใหญ่เลยมากเลยนะ สำหรับทีมที่พึ่งรวมตัวกันโดยไม่มีใครหนุน แถมไม่ได้แม้แต่จะมีเวลาซ้อมเท่าทีมอื่น นั่นจึงเป็นตัวส่งสัญญานที่ดีเลยว่า ทีมที่เก่งไม่ได้เกิดจากแค่ชื่อเสียง เงินทอง หรือคนหนุนที่ดี แต่มันอยู่ที่ผู้เล่น 5 คนที่อยู่บนเวทีว่าพวกเขามีอะไรมาก่อนแข่งมากขนาดไหน จิตใจ การซ้อม รวมถึงความเข้ากันของทั้ง 5 คนก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ
หากกล่าวว่าความสำเร็จของทั้งสองทีม เป็นแค่โชค แค่การฟลุ๊ก นั้นอันดับสามของ Among Us และรายการปัจจุบัน BTS Pro Series Season 3: Europe/CIS ที่ 5men ได้แข่งต่อใน Playoffs แต่ B8 ไม่เข้ารอบ ก็คงเป็นข้อมูลที่ไม่มีค่าอะไรเลย แต่เพราะมันไม่ใช่ มันมีทีมอื่น ทีมมีผู้สนับสนุน มีชื่อเสียง และมีฝีมือ แข่งอยู่ด้วย ทั้งหมดนี้เลยกลายเป็นตัววัดที่ดีแบบไม่ต้องสงสัย
มาถึงตอนนี้ทุกคนคงจะเห็นภาพแล้วว่าเกมอย่างการสร้างทีมใน Dota 2 มันไม่ใช่แค่จ้างนักแข่งเก่ง ๆ 5 คนแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่มารวมตัวกัน มันอาศัยมากกว่านั้น มากกว่าแค่เงินทอง ผู้สนับสนุนดี ๆ เพราะพวกนั้นคือความพร้อมที่ต้องมีอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือเรื่องที่ลึกลงไป อย่างการเข้ากันได้ จิตใจ การวางแผน การทดลองผิดถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งหมดนั้นคือเอาใจใส่ ซึ่งไม่ใช่ทุกทีมที่จะเล่นแบบเข้าใจกัน และเชื่อใจแบบที่ OG ทีมแชมป์ TI สองสมัยเป็น