DOTA2 แพทช์ 7.29c เนิร์ฟ BM & เกราะ Solar บัฟ QoP
หลังจากที่ผู้เล่น DOTA2 ได้ใช้เวลากับการเล่นในแพทช์ 7.29b กันมาพักใหญ่ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่มีการปรับสมดุลภายในเกม ทั้งในส่วนของรูนบนแม่น้ำ ฮีโร่และไอเท็ม ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการเล่นของผู้เล่นทุกคนในเกมนี้ ทั้งผู้เล่นทั่วไปและในผู้เล่นระดับโปรเพลเยอร์ของวงการอีสปอร์ต
และในวันนี้เราจะมาดูกันว่ามีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง (New Patch) โดยจะเริ่มจากไอเท็มในการใช้งาน แล้วก็ฮีโร่ภายในเกมนี้ และถือเป็นการทำความเข้าใจกับข้อมูลใหม่ ก่อนที่จะเข้าไปเล่นเป็นตาแรกของแพทช์นี้
รูนที่แม่น้ำเปลี่ยนค่าฟื้นฟู HP/Mana
โดยปกติแล้วที่บริเวณแม่น้ำในแผนที่ของ DOTA2 จะมีการปรากฏของรูนเกิดขึ้น ซึ่งจะมีทั้งส่วนที่เพิ่มความสามารถ อย่างเช่น Haste หรือ Double Damage แล้วก็มีส่วนที่ใช้ฟื้นฟู HP/Mana ของฮีโร่ในเกมได้ ซึ่งในส่วนของการฟื้นฟูนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่แย่ลง ก็คือ
– จากเดิม ฟื้นฟู HP (เลือด) 100 ฟื้นฟูมานา 80
– ปรับใหม่ ฟื้นฟู HP 80 ฟื้นฟูมานา 80
จะเห็นได้ว่าการฟื้นฟูเลือดนั้นลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งแม้ว่าดูตัวเลขแล้วจะลดลงไม่มาก แต่สำหรับการเล่นในช่วงต้นเกมของฮีโร่หลายตัวที่ต้องอาศัยการฟื้นฟูเลือด อย่างเช่น Queen of Pain, Invoker หรือพวกฮีโร่ในตำแหน่ง Mid-Lane ทั้งหลายก็จะได้รับผลกระทบจากตรงนี้อยู่บ้าง
การเปลี่ยนแปลงของไอเท็มใน DOTA2
สำหรับการอัปเดตไอเท็มของเกม esports อย่าง DOTA2 ในรอบนี้มีอยู่หลายชิ้นด้วยกัน ซึ่งไอเท็มที่มีการปรับล่าสุดแล้วก็สามารถส่งผลกระทบต่อการเล่นของผู้เล่นส่วนใหญ่ในทันที ก็จะมี “Solar Crest” ซึ่งเป็นไอเท็มบัฟทีมที่ Position 3, 4 หรือ 5 มักจะออกไอเท็มชิ้นนี้มา และจะส่งผลหลายอย่างกับทางฝั่งทีมตัวเองและฝั่งคู่แข่ง
การปรับของแพทช์ 7.29c ในครั้งนี้ ส่งผลให้ Attack Speed ลดลง จากเดิมคือ 65 เหลือ 55 ซึ่งส่งผลกับช่วงเวลาของ Team Fight ที่ฮีโร่แต่ละตัวในทีมจะโจมตีศัตรูได้ช้าลงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮีโร่อย่าง Lifestealer, Sven หรือ Alchemist เป็นต้น
นอกจากนี้ Sentry Ward ก็ถูกปรับลดเวลาสต็อคลง จาก 85 เหลือ 75 วินาที ซึ่งนี่คือผลดี เพราะว่าตัวซัพพอร์ตไม่ต้องเสียเวลารอ ทำให้ใช้งาน Sentry Ward ตัวนี้ได้บ่อยมากขึ้น แล้วก็มีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อความถี่ในการปะทะกันของฮีโร่ทั้งสองทีมมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะซัพพอร์ตของทั้งสองทีมจะได้โอกาสแก้ Ward กันถี่มากขึ้น
การบัฟ-เนิร์ฟฮีโร่ที่สำคัญของแพทช์ 7.29c
ไฮไลต์สำคัญของแพทช์นี้อยู่ที่การเนิร์ฟ (ปรับความสามารถให้ลดลง) ของ Beastmaster ซึ่งนี่คือฮีโร่ที่ถูกหยิบมาใช้งานมากพอสมควรในการแข่งขันหลายรายการ โดยสิ่งที่ปรับก็คือการออกไอเท็ม Scepter ซึ่งจากเดิมจะมีการเพิ่ม Bonus Damage แต่ในแพทช์ล่าสุดได้มีการนำความสามารถในส่วนนี้ออกไปแล้ว
นั่นเท่ากับว่าการออกไอเท็ม Scepter จะไม่ทำให้ Beastmaster โจมตีศัตรูได้รุนแรงเท่ากับแพทช์ก่อน แม้ว่าการใช้สกิลปาขวานยังคงใช้ได้อย่างต่อเนื่องเช่นเดิม แต่ถึงอย่างนั้นก็มีโอกาสสูงที่ฮีโร่ตัวนี้จะถูกใช้งานน้อยลง ทั้งในการแข่งขันของนักกีฬาอีสปอร์ต และในการแข่งขันจัดอันดับของเกม DOTA2
ส่วนฮีโร่ตัวอื่น ๆ จะไม่ได้มีการบัฟหรือเนิร์ฟมากเป็นพิเศษ เป็นเพียงการปรับเปลี่ยนความสามารถเล็กน้อย อย่างเช่น Kunkka กับ Lycan ที่ได้ Movement Speed (ความเร็วในการเคลื่อนที่) เพิ่มขึ้นอีก 10 หน่วย จาก 305 เป็น 315 เท่ากัน รวมถึง Batrider ที่ได้ปรับในจุดนี้จาก 295 เป็น 300 แต่ได้บัฟระยะโจมตีเพิ่มขึ้นจาก 375 เป็น 400 ด้วย
แต่สำหรับ Queen of Pain จะใช้สกิล Scream of Pain ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีผลกับการใช้งานได้ถี่มากขึ้น กับระยะของสกิลที่เพิ่มจาก 525 เป็น 550 โดยที่ใช้มานาน้อยลงในช่วงสกิลเลเวล 3 และ 4 ก็คือจากเดิม 80/100/120/140 เป็น 85/100/115/130
ข่าวอื่นในแวดวง DOTA2 YapzOr กับการเล่นที่เหมือนว่าเขาอยู่ในศึก The International ตลอดเวลา
