jame ในปัจจุบันเขาได้อยู่กับต้นสังกัดใหม่อย่าง Virtus.pro ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา ซึ่งนี่คือช่วงแรกของการสัมภาษณ์ 2 ตอน โดยผู้สัมภาษณ์คือ Alexey “OverDrive” Birukov
Dzhami “Jame” Ali เป็นแกนนำผู้เล่นในระดับท็อปของ CIS มานานกว่าสามปีแล้ว โดยเขามีช่วงเวลาที่สุดยอดในปี 2019 ขณะที่เขาช่วย AVANGAR เข้าสู่ StarLadder Major รอบสุดท้าย และคว้าชัยชนะที่ BLAST Pro Series Moscow เขาได้รับเลือกให้เป็น MVP ของทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่จะย้ายทีมไปยัง Virtus.pro ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคนี้
Jame เปิดเผยว่าเมื่อครั้งเขาได้รับการแนะนำจากญาติ ให้ได้ลองเล่น Counter-Strike เขาพูดถึงช่วงแรกๆ ของเขาในการเริ่มเล่นเกมนี้ และนอกจากนี้เขายังบอกถึงช่วงเวลาของ “Jame Time” ว่ามันคือสิ่งที่เขาทั้งชอบและไม่ชอบไปพร้อมๆ กันอีกด้วย
บทสัมภาษณ์จาก hltv.org
คุณดูสตรีมการแข่งขันหรือไม่ คุณชอบนักพากย์คนไหนมากที่สุด?
ผมมักจะดูสตรีมกับเพื่อน แต่เราจะปิดเสียงเอาไว้เพราะผมมัวแต่เอาเวลาไปเล่น CS ซะเป็นส่วนใหญ่ อาจจะหันไปดูบ้างครั้งคราว ผมเลยไม่ค่อยได้สนใจว่าใครเป็นคนพากย์การแข่งขันของผม หรือคนอื่นมากนัก
คุณมีหนังสือหรือหนังที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณบ้างไหม ช่วยแนะนำทีถ้าเกิดมี?
แรงจูงใจหลักของผมมาจากภายใน ผมจะแนะนำให้ หลังจากที่คุณเสร็จสิ้นการรับประทานอาหาร และทำใจให้สบาย แล้วเริ่มสร้างความคิดให้เกิดขึ้นในใจว่า วันนี้คุณไม่ได้ทำการซ้อมมากเท่าที่ควร คุณต้องไปซ้อม Deathmatch หรือตรวจสอบการเล่นย้อนหลัง
กระบวนการนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีแรงจูงใจจากภายนอก ทุกสิ่งที่คุณดูหรืออ่านทำหน้าที่ด้วยตัวของมันเอง แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ ผมชอบ ‘ดราก้อนบอล’ ซึ่งการได้รับพลังถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของเรื่อง มันเป็นเรื่องราวของการต่อสู้อย่างแท้จริง ส่วนซีรีส์ผมชอบ ‘The Last Dance’ มากในตอนนี้
คุณคิดว่า CS:GO มีการกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับผู้เข้าแข่งขันหรือไม่ คุณวางแผนการเล่นไว้นานแค่ไหน?
CS:GO ยังไม่เก่าพอที่จะสรุปได้ บางครั้งผมก็คิดว่าตอนอายุ 25 ผมอาจจะกลายเป็นโค้ช หรือเดินออกจากอาชีพอีสปอร์ตไป แต่แล้วผมก็หยุดพักยาวหนึ่งสัปดาห์ และตระหนักว่าไม่มีประเด็นอะไรมากมายในการใช้ชีวิตโดยปราศจากเกม ถ้านั่นคือทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้และทำให้คุณมีความสุข ผมคิดว่ามันยากที่จะพูดอะไรที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ เมื่ออายุ 30 ปี มีหลายสิ่งที่คุณไม่สามารถละเลยได้ เช่น ครอบครัว สุขภาพ และธุรกิจที่คุณต้องต่อยอด โดยรวมแล้วบุคคลไม่สามารถทำสิ่งเดียวกันได้นานเกินไป ในขณะที่เขาสูญเสียแรงจูงใจและแรงบันดาลใจไปเรื่อยๆ
ทุกคนต้องการความก้าวหน้าในการทำงาน เพราะหากทำสิ่งเดิมนานเกินไปมันจะกลายเป็นกิจวัตร และเช่นเดียวกันกับ CS คุณไม่สามารถอยู่ในจุดสูงสุดของเกมได้ตลอดเวลา คุณไม่สามารถอุทิศเวลาให้กับ CS ทั้งหมด 100% คุณสามารถหมดไฟได้ทุกเมื่อ ผมโชคดีที่ผมเพิ่มแรงจูงใจได้ด้วยตัวเองอยู่ตลอด
เกมมีผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร?
เมื่อเร็วๆ นี้ผมพบว่าผมมีปัญหาเกี่ยวกับคอของผม เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันทำให้ผมมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังคด และเมื่อถึงจุดหนึ่งผมมีอาการปวดหัวเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ผู้เล่นหลายคนก็มีปัญหาคล้ายๆ กับผม และเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนี้จะไม่ทำให้ผมต้องเลิกเล่นไป ผมจำเป็นต้องออกกำลังกาย ครั้งสุดท้ายที่ผมเล่นกีฬาคือช่วงมหาวิทยาลัยเมื่อสามปีก่อน
คุณอยู่ในฟอร์มสูงสุดเมื่อไหร่?
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำหนดว่า มันคือการเล่นที่ดีที่สุดของผมหรือไม่ เป็นความรู้สึกที่ไม่ง่ายที่จะประสบความสำเร็จ และมันอาจจะไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำกับสิ่งที่คุณเรียกว่าฟอร์มสูงสุด สิ่งที่สำคัญกว่าคือการทำผลงานได้ดีอย่างสม่ำเสมอ!
คุณรักษาแรงจูงใจและแรงบันดาลใจ ในการเล่นในระดับสูงสุดได้อย่างไร?
วิถีชีวิตที่ผมมี และเงินที่ผมทำได้อาจจะหายไปอย่างรวดเร็ว หากผมไม่กระตือรือร้น ความคิดนี้ทำให้ผมตื่นตัว ผมรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่ผมมีอยู่ในขณะนี้
บัญชีรายชื่อทีมที่แข็งแกร่ง องค์กรที่ยอดเยี่ยม และโดยพื้นฐานแล้วทุกสิ่งที่ผมต้องการเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดี ทั้งหมดรวมกันอยู่ที่นี่แล้ว นี่คือแรงจูงใจหลักของผม หากคุณกระโดดออกมาจากทีมในตอนนี้ คุณอาจไม่รู้เลยว่าจะมีช่วงเวลาดีๆ แบบนี้อีกเมื่อไหร่
ค่าจ้างของคุณมีผลต่อแรงจูงใจในการเล่นของคุณหรือไม่?
เงินเป็นตัวกระตุ้นที่ดี แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก เมื่อคุณแพ้ในทัวร์นาเมนต์สิ่งสุดท้ายที่คุณคิดคือเงิน แรงจูงใจสร้างขึ้นจากรายการส่วนประกอบโดยเฉพาะ “ความรักที่มีต่อเกม” ค่าจ้าง ความรับผิดชอบที่มอบให้กับคุณ และความปรารถนาที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อผู้อื่น ยากที่จะระบุว่าสิ่งใดมีอิทธิพลมากที่สุด
ชื่อเสียงที่คุณได้มา มันทำให้คุณเปลี่ยนไปหรือไม่ในความคิดคุณ?
ผมจะตอบแบบที่ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงตอบกัน เพราะมันไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนไปในความคิดของผม แต่คนรอบข้างจะเป็นคนบอกคุณให้ ว่าความคิดของคุณนั้นถูกหรือไม่ ยกตัวอย่างเวลาคุณกลับไปเล่นกับเพื่อนและคุณคือนักแข่งที่มีชื่อเสียง ซึ่งมันอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เพื่อนร่วมทีมเล่นไม่ได้ดั่งที่เราเคยเล่นร่วมกับทีมมา แล้วเราเผลอพูดหรือทำอะไรที่ไม่ดีลงไป
คนรอบข้างจะเป็นคนบอกคุณเองว่า นายเปลี่ยนไปนะเพื่อน เมื่อก่อนนายไม่ใช่แบบนี้ นั่นแหละคุณจะเริ่มรู้ตัวว่า คุณได้เปลี่ยนไปจริงๆ อย่างที่เขาว่า
คุณคิดชื่อเล่นในเกมของคุณได้อย่างไร?
ตอนแรกชื่อเล่นของผมคือ Jake แต่ผมเห็นผู้ใช้ YouTube ที่มีชื่อเล่นเดียวกัน ผมจึงเปลี่ยน “k” เป็น “m” ผลลัพธ์ที่ออกมาฟังดูคล้ายกับชื่อของผม ผมเลยเลือกชื่อนี้
คุณเล่น CS ครั้งแรกเมื่อไหร่?
เมื่อผมอายุประมาณ 15 ปี เพื่อนของผมพาผมไปที่ร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งผมเล่น CS 1.6 สองสามรอบ ครั้งต่อไปที่ผมเล่น CS ประมาณสามปีต่อมา ในช่วง 1.6 ผมไม่ได้ติดตาม eSports เลย และเล่นบนเซิร์ฟเวอร์แบบสุ่มเท่านั้น ผมเริ่มเล่นมิกซ์แมตช์แรกในช่วง Source และเข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการครั้งแรกใน CS:GO
เมื่อไหร่ที่คุณรู้ว่าคุณสามารถเป็นนักแข่งมืออาชีพได้?
อาจเป็นตอนที่ผมได้รับเงินรางวัลที่หนึ่ง ขอโทษทีผมจำไม่ได้จริงๆ
คุณชอบ CS:GO off the bat ไหม?
ใช่ผมประหลาดใจมากที่คุณสามารถกดปุ่มค้นหาได้อย่างไร และมันจะพบคุณโดยอัตโนมัติ นั่นคือสิ่งที่ผมติดอยู่กับมันมานาน
บอกเราเกี่ยวกับทีมที่จริงจังทีมแรกของคุณ?
เรารวมทีมจากกลุ่มคนทางใต้และมุ่งหน้าไปที่งาน Gameanoid ในมอสโกว เราแพ้ผู้ชายจากคาซานที่เล่นแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้พวกเขาในเวลานั้น สำหรับการไปมอสโคว์ครั้งต่อไปเราได้รวบรวมบัญชีรายชื่อที่แข็งแกร่งขึ้นกับ PASHANOJ และนำ SEVERIN และ tr3vl ออกจากทีม
เราสามารถคว้าอันดับที่สองได้ เราเล่นกันภายใต้แท็ก “Gnet Cafe” ซึ่งเป็นร้านอินเทอร์เน็ตในคราสโนดาร์ที่สนับสนุนการเดินทางไปมอสโคว์ ก่อนที่จะไปสู่ AVANGAR ผมเล่นในทีมชื่อ Hala Ares ร่วมกับ PASHANOJ และถ้า naumoff ไม่ได้รับการแบนจากการใช้ VAC
Minor ก็จะเข้ามาแทนที่ในเวลานั้น นอกจากนี้ยังมีทีมที่เรียกว่า NOVA และ Comanche แต่ผมจำไม่ได้ว่าองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ไม่จ่ายเงินให้ผมแม้แต่รูเบิลเดียว โดยปกติแล้วทีมเยาวชนจะได้รับสัญญามากมายหากคุณเล่นภายใต้แท็กขององค์กร
คุณจำอะไรได้บ้างจากช่วงเวลานั้น?
ผมจำได้ว่าผมมีปัญหาเรื่อง ping ที่ร้ายแรง ย้อนกลับไปตอนนั้นมีเหตุการณ์มากมายที่คุณจัดการกับมันอย่างเร่งด่วน และเห็นได้ชัดว่าทุกคนที่ผมเอาชนะได้ ขอให้ผมส่งการเแข่งขันย้อนหลังของผมให้พวกเขา ผมใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการอัปโหลด หากทีมของผมเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอาจยืดออกไปจนถึงตี 5 ในตอนเช้า เพราะเราต้องเพิ่มชั่วโมงพิเศษในแต่ละนัด เพื่อที่ผมจะได้อัปโหลดการสาธิตการเล่นของผม ผมยังจำได้ว่าย้ายมาอยู่กับ PASHANOJ ที่ซึ่งเราเล่น FACEIT ด้วยกัน มีเกมที่ชนะ 70 เกมติดต่อกัน
คุณตัดสินใจใช้ “RDFG” เป็นปุ่มเคลื่อนไหวได้อย่างไร?
ผมคิดว่าผมเห็น GeT_RiGhT ใช้มัน และผมก็รู้ว่ามันสมเหตุสมผลแล้วที่จะมีคีย์เพิ่มเติมทางด้านซ้ายของมือคุณ
คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับมีมที่เกี่ยวข้องกับคุณ?
มันโคตรเจ๋ง ผมควรเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเอง และผมก็ไม่คิดที่จะเอารายได้จากสิ่งนี้มากนัก ให้มันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น ในทางกลับกันถ้าผมใช้มีมเพื่อเงินอย่างน่าเกลียด เสน่ห์ของมันก็จะหายไป
มีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ‘Jame time’?
ที่ผ่านมามีหลายครั้งที่ผมกับทีมไม่น่าจะรอด เราไม่มีประสบการณ์ และเรามักจะทำลายการเงินของทีมเวลาเล่น เรามักจะแพ้รอบปืนพกเสมอ เมื่อพูดถึงการเล่นแบบช้าๆ บน eco มันเป็นเรื่องสนุกที่จะรอต้อนรับ UZI ด้วย USP ซึ่งอีกทีมกำลังหิวเงิน ดังนั้นพวกเขาจะวิ่งมาหาคุณเอง
แต่ทุกวันนี้ระดับการเล่นดีขึ้นดังนั้นจึงไม่ได้ผลอีกต่อไป ผู้เล่นวิ่งหนีเพื่อเช็คในตำแหน่งเดียว ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะสร้างความเสียหายก่อนที่ระเบิดจะระเบิด ‘Jame time’ มีการตีความที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือเมื่อผมเก็บคลัตช์ในรอบนั้นๆ ได้ อีกอันหนึ่งเมื่อเกิดเรื่องน่าเหลือเชื่อมากๆ ขึ้น ตัวอย่างเช่นที่ Major นั้น ‘Jame time’ นั้นเกี่ยวข้องกับการเล่นที่น่าประทับใจ และผมยิงจังหวะสำคัญๆ ได้เยอะ
โรคระบาดส่งผลกระทบต่อคุณและทีมอย่างไร?
ประการแรกเราไม่ได้เจอกันเป็นทีมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เมื่อคุณเดินทางสามครั้งต่อเดือน คุณมักจะคิดว่าการพักผ่อนที่บ้านสักสองสามเดือนเป็นเรื่องดี แต่เมื่อคุณนั่งอยู่ที่บ้านเป็นเวลาครึ่งปี คุณจะรู้ว่าคุณพลาดการเดินทางที่น่าสนใจไปเยอะ เราจริงจังกับโคโรนาไวรัส และคุณจะไม่จริงจังกับมันได้อย่างไร ในเมื่อทุกคนมีผู้สูงอายุในครอบครัวซึ่งมันมีความเสี่ยงสูงที่พวกเขาจะติดโรคได้
บอกเราเกี่ยวกับการเติบโตของค่าจ้างของคุณได้ไหม?
ค่าจ้างแรกของผมคือ 10,000 rubles (~ 130 $ USD) แต่นั่นเป็นการจ่ายครั้งเดียว เพื่อให้แน่ใจว่าผมจะได้เล่นแน่นอนและฝึกซ้อมร่วมกับทีม ตอนที่ผมเล่นกับ PASHANOJ ใน AVANGAR เราเริ่มต้นด้วยเงินเดือน $ 300 แต่เมื่อเราได้อันดับที่สองในงานแรกของเรา มันทำให้ผมได้สูงถึง $ 500 ต่อมาขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันของทีม
ค่าจ้างของเราจะเพิ่มขึ้น 300 เหรียญทุกครั้งและเมื่อถึงระดับ Major ก็ถึงผลรวมที่ต้องนำมาคิดรวมกัน สำหรับผู้เล่นมืออาชีพในภูมิภาค CIS หลังจากที่เราได้อันดับสองใน Major มันก็เพิ่มขึ้นอีก แต่ด้วย Virtus.pro ค่าจ้างของเราขึ้นอยู่กับอันดับ [HLTV] เมื่อเราพ่ายแพ้มากเท่าไหร่ มันจะยิ่งลดลงอย่างมาก แต่ตอนนี้เรากลับมาได้รับค่าตอบแทนที่ดีแล้ว
ค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดของคุณกับเงินที่คุณได้รับมาคืออะไร?
ผมช่วยแม่ออกค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ส่วนผมเองซื้อไอโฟนและเสื้อผ้า Balenciaga
ชัยชนะครั้งไหนที่คุณชอบมากที่สุด และการแข่งขันครั้งไหนที่คุณไม่อยากจะจดจำ?
ชัยชนะที่ผมชอบคือ Flashpoint และ BLAST การสูญเสียที่ขมขื่นที่สุดคือการแข่งขันกับ MIBR ในการแข่งขัน CS:GO Asia Championship ที่เซี่ยงไฮ้ ผมเล่นได้แย่และเราก็แพ้การแข่งขัน คุณสามารถพูดได้ว่าผมทำลายแมตช์นี้เพราะใครๆ ก็บอกแบบนั้น ผมมีโอกาสที่จะชนะการแข่งขัน แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมทิ้งโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่มี AWP คู่ใจอยู่ในมือแท้ๆ
บอกเราเกี่ยวกับครอบครัวของคุณสักนิดหน่อยได้ไหม?
พ่อของผมมาจากอัฟกานิสถาน แม่ของผมเป็นคนรัสเซีย พวกเขาหย่าร้างกันผมจึงอาศัยอยู่กับแม่และยายในรัสเซีย
ตอนเด็กคุณมีความฝันว่าอยากโตมาเป็นอะไร?
ผมชอบดูหนังเกี่ยวกับออฟฟิศมาก ซึ่งคนในชุดสูทจะมีการประชุมมันดูดีเอามากๆ ดังนั้นผมจึงอยากเป็นพนักงานออฟฟิศ
คุณมีความฝันนอกวงการอีสปอร์ตหรือไม่?
ไม่เลยสักนิด
คุณอยากจะเรียนต่อหรือไม่?
ไม่ ผมเพิ่งจบมหาลัยมา ผมไม่ได้วางแผนที่จะเรียนต่อในอนาคตเลย
คุณเคยทำงานนอกวงการ eSports หรือไม่?
ใช่ผมส่งหนังสือพิมพ์ไปสองสามวัน ผมยังทำงานเป็นผู้ช่วยช่างสำรวจ ซึ่งผมช่วยแบกและตั้งค่าอุปกรณ์
อาหารโปรดของคุณคืออะไร?
ผมชอบเกี๊ยวรัสเซียพิซซ่า และ Borscht ผมชอบอาหารง่ายๆ
คุณชอบฟังเพลงอะไร?
ผมมีแทร็กประมาณ 8,000 เพลงในเพลย์ลิสต์ของผม และคุณสามารถค้นหาอะไรก็ได้ตั้งแต่แร็พจนถึงเคป๊อป
คุณจะอนุญาตให้ลูก ๆ ของคุณเข้าสู่วงการหรือไม่?
เอาจริงๆ ผมก็อยากให้เขาเน้นกับตรงอื่นไปก่อน สามารถที่จะเล่นได้ แต่เป็นแนวทางที่เป็นระบบภายในสภาพแวดล้อมที่ถูกต้อง ถ้าเห็นได้ชัดว่าลูกของผมมีอนาคตในกีฬานี้แน่นอน ผมจะสนับสนุนเขาถ้าเขาต้องการ
คุณมีความกลัวบ้างไหม?
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือความตาย และความกลัวที่เหลือของผมเป็นผลมาจากความกลัวตายล้วนๆ ความกลัวอื่นๆ ของผมไม่เด่นชัดมากนัก
คุณนับถือศาสนาหรือไม่?
ผมยังไม่ได้กำหนดจุดยืนของผมเกี่ยวกับคำถามนี้
อะไรคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณ?
ในแง่ของเกม ดังที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ มันเป็นการที่ต้องเจอกับ TACO และ MIBR ผลจบที่ผมแพ้ด้วยสกอร์ไลน์ 15-14 ซึ่งแพ้ทั้งในรอบชิงและการแข่งขันแบบปกติ สำหรับชีวิตความผิดพลาดของผม คือผมไม่ได้มีส่วนร่วมในการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ร่างกายผมจึงเกิดปัญหาขึ้น นอกจากนั้นผมไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ผมทำผิดพลาดที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองมาในเส้นทางนี้
คุณเคยได้เจอกับยอดฝีมือชื่อดังจากประเทศต่างๆ มากมาย ประเทศไหนที่คุณชอบมากที่สุด?
ปรากฎว่าผมชอบประเทศที่เราชนะหรือแค่มีผลงานที่ดี ในฐานะทีมที่ต้องไปเยือน เช่นยูเครนเยอรมนี และโรมาเนีย
ในส่วนที่สองของการสัมภาษณ์พิเศษนี้ พลซุ่มยิงชาวรัสเซียพูดถึงการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของ AVANGAR และปีแรกของเขาภายใต้ทีม Virtus.pro หลังจากพูดคุยกันหลายหัวข้อที่มีลักษณะเป็นส่วนตัวมากขึ้น หลังจากในช่วงแรกของการสัมภาษณ์ ซึ่งดำเนินการโดย Alexey “OverDrive” Birukov, Dzhami “Jame” Ali ได้พูดถึงบทบาทที่สำคัญที่สุด ในชีวิตที่เขาต้องได้รับ
Jame กล่าวว่าทีมของเขามองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับโอกาสของพวกเขาในเบอร์ลิน หลังจากการเพิ่ม Dauren “AdreN” Kystaubayev ผู้เล่นที่ “ให้อะไรเรามากมาย” นอกจากนี้เขายังตั้งข้อสังเกตว่า AVANGAR ไม่ได้รู้สึกกดดันใดๆ ในการเล่นที่ระดับ Major และไม่สนใจว่าการได้อันดับสองในการแข่งขันที่เยอรมันเป็นเรื่องบังเอิญ แม้เขาจะยอมรับว่าทีม “โชคดีมากในระดับหนึ่ง”
ผู้เล่นชาวรัสเซียยังเปิดใจเกี่ยวกับการต่อสู้ของทีม หลังจากเข้าร่วม Virtus.pro – “ในตอนแรกเราพ่ายแพ้เนื่องจากเหตุผลหนึ่งข้อ ต่อมาเป็นเหตุผลอื่นและในตอนท้ายเรามีบรรยากาศที่ทำให้ทั้งหมดรวมกันแล้วมันส่งผลต่อทีมมาก” และเขาอธิบายว่า ทำไมทีมถึงมีฟอร์มที่เฉียบคมเมื่อเร็วๆ นี้ โดยขยับขึ้นจากอันดับที่ 39 ของโลกในเดือนสิงหาคม ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 10 หลังจากชัยชนะใน Flashpoint 2 พร้อมคว้าเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์
คุณเข้าร่วม AVANGAR ได้อย่างไร?
แม้องค์กรจะมีแผนรวบรวมบัญชีรายชื่อคาซัคสถานแบบจัดเต็ม แต่หนึ่งในเจ้าของ AVANGAR ก็สังเกตเห็นผมมานานแล้ว อดีตเพื่อนร่วมทีม Dimasick ของผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมและเขาแนะนำผมให้รู้จักกับทีม พวกเขากำลังบูทแคมป์ในเคียฟ แต่ผมไม่มีพาสปอร์ต ดังนั้นผมจึงต้องเล่นกับพวกเขาจากที่บ้าน เราเล่น scrims, FACEIT และแม้กระทั่งทัวร์นาเมนต์ แต่ผมสามารถเข้าร่วมได้เพียงสองสัปดาห์ก่อน Minor จะเริ่มขึ้น
คุณสามารถเป็นทีมที่เติบโตจาก CIS ที่ดีที่สุดแห่งปีได้อย่างไร?
ในที่สุดเราก็มีช่วงเวลาที่ดี เงื่อนไขที่ยอดเยี่ยม การจัดการที่ดีและที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ เราทุ่มเทอย่างเต็มที่ มุ่งเน้นไปที่เกมอย่างเต็มที่ หากเราพลาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก
อะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนของ AVANGAR ในฐานะองค์กร?
องค์กรทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะมีผลลัพธ์ที่ดี เรามีเงื่อนไขที่จำเป็นทั้งหมด เราแค่ต้องทุ่มเทให้กับงานผู้เล่นและฝ่ายบริหารมีความรู้สึกเป็นมิตร แต่ในขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจว่า เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเพียงเพื่อเล่นเกม พวกเขามีความพยายามอย่างมาก
เงินลงทุนในตัวเรานั้นมีค่าและเป้าหมายของเราคือ ให้เหตุผลในการลงทุนนี้กับองค์กรที่เชื่อมั่นในความสามารถของเรา ผมไม่สามารถบอกจุดอ่อนใดๆ ได้ นอกจากความจริงที่ว่าองค์กรยังอายุน้อยและมันได้สลักเส้นทางในวงการ eSports เคียงข้างเรา ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าพวกเราสามารถทำได้ดีกว่าองค์กรที่มีประสบการณ์บางแห่งซะอีก
มีข่าวลือเกิดขึ้นคุณถูกบอกว่ามีการอารมณ์เสียระหว่างการแข่งขัน และเป็นเพราะเหตุนี้คุณจึงกลายเป็นคนที่สงบนิ่งมากขึ้น?
ไม่ อันที่จริงมีคนบอกว่าเราทำตัวเหมือนผัก และอารมณ์นั้นเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่เราต้องปลดปล่อย มันบังเอิญมากที่เราเป็นคนใจเย็นโดยธรรมชาติ และในเวลานั้นเราแทบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เลย พวกเราตระหนักถึงความสำคัญของแต่ละนัด แม้กระทั่งอารมณ์ของแดสตัน (โค้ชของ AVANGAR) ก็ยังดูดซับกลิ่นอายแห่งความสงบของเรา และจะตะโกนระหว่างการแข่งขันที่สำคัญเท่านั้น
บอกเราเกี่ยวกับ CIS Minor ตัวแรกที่คุณได้รับรางวัลสักหน่อยได้ไหม?
ในตอนนั้นเรากำลังทำงานร่วมกับนักจิตวิทยาที่ช่วยให้เราได้รับชัยชนะ ผมไม่สามารถพูดได้ว่าผมมีความประทับใจพิเศษใดๆ จากงานนี้ นอกจากการลองโคคา – โคลาที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยลองมาในชีวิตมัน เป็นความหวานที่สุดที่ผมเคยลิ้มลอง
ผมจำรอบชิงชนะเลิศกับ Quantum Bellator Fire ได้ดี ซึ่งเราสามารถกลับมาในแผนที่สุดท้ายได้จากเล่นพลาดของพวกเขาที่ 1-9 เป็นที่น่าสังเกตว่า เราไม่ได้ฝึกซ้อมกับทีมระดับนี้เลยในเวลานั้น และเราเพิ่งสร้างเพจ Facebook ในระหว่างการเตรียมตัวสำหรับ Major ผมจำได้ว่าในระหว่างการต่อสู้กับ NiP ครั้งแรกเรารู้สึกประหม่าว่า พวกเราโอกาสนี้จะถูกพรากชัยชนะไปจากเราหากเราเล่นไม่ดี
คุณจำอะไรได้บ้างจาก Major [ELEAGUE Major Boston]?
มีความเป็นไปได้ที่เราจะพลาด Major จากผลการแข่งขันที่ค่อนข้างขาด บัสเตอร์ได้รับวีซ่าในการลองครั้งที่สามเท่านั้น dimasick ได้รับในครั้งที่สอง มันมืดมนไปหมด มีผู้ชายห้าคนจากภูมิหลังที่ต่ำต้อยบินไปอเมริกา ที่ซึ่งมีผู้เล่นยอดนิยมมากมายเดินไปมาและเราต้องเล่นกับพวกเขา เราเริ่มต้นที่ 0-2 แพ้ Mirage ทั้ง mousesports และ Space Soldiers
เราคิดว่าเราเล่นได้ดีบนแผนที่ของเรา แต่พวกเขาแสดงให้เราเห็นว่าไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเราจัดการกลับไปที่ 2-2 เราเสียสล็อตให้กับ QBF แต่เรามีโอกาสที่จะเล่นสล็อตเพิ่มเติมในภายหลัง เกมกำลังดำเนินไปทีละเกมและในการแข่งขันนัดล่าสุดของเรากับ Liquid เราเพิ่งแพ้มันไปอย่างน่าเสียดาย เราขาดประสบการณ์ กลไกและความยืดหยุ่นทุกอย่างในเกม เราขาดสิ่งเหล่านั้น
คุณได้ข้อสรุปอะไรบ้างหลังจาก Major?
ในตอนแรกพวกเราทุกคนอาจคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรายชื่อทีม และตัดคนที่เราคิดว่าเป็นจุดอ่อนที่สุด แต่เราก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ดูเหมือนจะเป็น เราต้องทำงานต่อ ทีมบริหารของเราค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรา และมักจะใส่ใจเรื่องการตอบสนองทางอารมณ์ของพวกเราอยู่เสมอ
เรามีแชท WhatsApp ที่จะดีกว่าถ้าไม่ได้อ่านมันระหว่างการแข่งขัน เพราะมันเต็มเป็นด้วยความกังวลใจของทีมงาน หลังจากทำการคัมแบ็คได้สำเร็จและครึ่งหนึ่งของสิ่งที่ถูกเขียนในนั้นถูกลบไปหลังจากการแข่งขัน ผมไม่คิดว่าเราจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้นจริงๆ แดสตัน (โค้ชของทีม) พยายามดิ้นรนเพื่อสิ่งเหล่านี้มาหลายปีแล้ว และหลังจากการสูญเสียที่ว่างในการเข้าแข่งขันให้กับ QBF ครั้งนั้นเขาก็น้ำตาแทบไหลมันมีความหมายมากสำหรับเขา
ทำไมคุณถึงตัดสินใจเป็นตัวสำรอง?
ผมถูกลบออกหลังจากการแข่งขัน Major ผู้เล่นสามคนถูกคุกคาม แต่ผมเป็นคนเดียวที่ถูกลบออก เมื่อคุณวางตัวเองบนม้านั่งสำรองโดยพื้นฐานแล้วจะเหมือนกับการถูกเตะ ผมเข้าใจว่าตอนนั้นผมรู้สึกเหนื่อยหน่าย และผมจำเป็นต้องจัดการปัญหาชีวิตบางอย่าง
ผมกลับมาหลังจากที่ผมคิดว่านี่แหละคือเวลาที่เหมาะสมแล้ว ในตอนนั้น Ramz1kBo $$ และ qikert เป็นกัปตันของทีม ซึ่งเข้ามาแทนที่ผม ผมจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่เกมของผมและผมก็มีการเล่นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด dastan และ dimasick รวมทีมกันหลังจากสนทนาเป็นเวลานาน พวกเขาก็ขอให้ผู้บริหารนำผมกลับไปที่บัญชีรายชื่อตัวจริงอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่คุณกลับเข้าสู่บัญชีรายชื่อทีมหลังจากที่แพ้ไมเนอร์ มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
เวลาประมาณสามสัปดาห์ เรากำลังฝึกซ้อม แต่ไม่ใช่กับทีมที่ดีที่สุดและดูเหมือนว่าเราเหนื่อยล้า บรรยากาศในทีมก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเช่นกันและไม่ใช่ว่าเรากำลังโต้เถียงกัน แต่เราเหนื่อยและไม่มีสมาธิกับเกม
ทำไมคุณถึงเปลี่ยน dimasick?
เราได้รู้จักกับฟิทช์และบอกว่าเขาว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทีม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น เราตระหนักว่าสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปได้ด้วยดี และเราต้องการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีใครอยากรับผิดชอบต่อสิ่งเหล่านี้ นอกจากนี้เราสามารถทดสอบมันได้ ถ้ามันไม่ได้มีผลกระทบมากนัก เราจะย้อนกลับไปคิดว่าสิ่งต่างๆ ในอดีตเป็นอย่างไรเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับผม
คุณไม่ต่อต้านการเตะ Dimasick เหรอ? เขาช่วยคุณไว้หลายครั้งมากเท่าที่ผมทราบ?
เมื่อการสนทนาเกี่ยวกับการเตะ Dima เกิดขึ้นและการสนทนาใดๆ ที่เกี่ยวกับการเตะผู้เล่น ผมจะถือตัวว่าเป็นกลาง เพราะผู้เล่นทุกคนมีข้อดีและข้อเสียของเขา ในขณะเดียวกันผมก็เข้าใจว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง แต่มันไม่ใช่ว่า Dima เป็นปัญหาบางที เขาอาจจะแค่ต้องแก้ไขจุดอ่อนบางอย่างของเขาและสิ่งต่างๆ ก็น่าจะดี เราให้ฝ่ายบริหารรวบรวมความคิดเห็นของทุกคนและตัดสินใจขั้นสุดท้าย ผลก็คืออกมาอย่างที่เห็น
ทีมงานแทนที่ฟิทช์ได้อย่างไร?
มันเป็นสถานการณ์เดียวกับที่เราเคยเจอกับ Dima เพียงแค่ปีเศษๆ ซึ่งมันเหมือนกันอย่างมาก มีคนจากฝ่ายบริหารคอยดูแลเราอยู่เสมอ และนั่นเป็นเรื่องดีเพราะคุณจะได้รับมุมมองที่แตกต่างออกไป ทันทีที่มีปัญหาแม้จะเล็กน้อย แต่ในทีมผู้จัดการของเราก็รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดฝ่ายบริหารจะเริ่มแก้ไขปัญหาโดยทันที
AdreN นำอะไรมาสู่ทีม?
เขาให้อะไรเราหลายอย่าง เราพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับทั้งสิ่งต่างๆ ในเกม เช่นการผสมผสานกลเม็ดเคล็ดลับกลยุทธ์และความคิดทุกอย่าง เป้าหมายความมั่นใจและความหมายของการมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี เรายังใช้เวลาคุยกันนานมาก ซึ่งมันมีแต่ปรัชญาค่อนข้างเยอะ
StarLadder Major ซึ่งคุณได้อันดับที่สอง นี่คือที่ๆ คุณโด่งดังขึ้นมาก็ว่าได้ มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างตอนนั้น?
แม้ว่าผลการแข่งขันออนไลน์ของเราจะเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น แต่เราก็เตรียมพร้อมสำหรับ Major เอาไว้แล้ว เมื่อการมาถึงของ AdreN เราทุกคนต่างก็เชื่อในชัยชนะของเราโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเกมจะไม่เป็นไปตามที่เราวางแผนไว้ก็ตาม เราไม่ได้แบกรับภาระความรับผิดชอบจากการแข่งขันเมเจอร์ และต่างจากทีมส่วนใหญ่ เราไม่ต้องกังวลว่าเราจะแยกทีมหากไม่ได้เข้าสู่เมเจอร์ถัดไป
ทีมส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในการเล่นที่ Major เหมือนกับที่พวกเขาอยู่ในเหตุการณ์อื่น เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับมือกับความกดดันได้ ตอนที่เราขึ้นรถก่อนการแข่งขันกับ Vitality มีแฟนๆ ชาวฝรั่งเศสร้องเพลง ‘Vitality’ ซึ่งทำให้เราอารมณ์ดีและทำให้เรามีแรงจูงใจเพิ่มเติม
เมื่อเราเข้าสู่รอบรองชนะเลิศกับ Renegades ในแง่หนึ่งเราคิดว่าพวกเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในรอบชิงชนะเลิศ แต่ในทางกลับกันเราพยายามตัดความคิดเหล่านี้ออกไป สุดท้ายเราก็ไปไม่ถึงฝัน ผมไม่เสียใจเท่าไหร่ เพราะเราทำมันได้อย่างสุดยอดมากๆ แล้ว ใครจะไปคิดว่าพวกเราจะไปอยู่ในจุดนั้นได้ และมันสร้างให้ผมมี “Jame Time” มาจนถึงทุกวันนี้
VP กำลังร้อนแรงเป็นอย่างมากในตอนนี้ และหนึ่งแกนหลักของทีมก็คือเขาคนนี้ jame “The Jame Time”
ข่าวทีเ่กี่ยวข้อง : ใครจะอยู่ใครจะไป! Illuminar ประกาศปรับรายชื่อทีมครั้งใหญ่
