Cherie (เชรี่) หรือ เช ภัทร ภัทรภิรมย์ หนุ่ม Pro Player มากประสบการณ์ ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ช่วงแรกของเกม RoV ได้เปิดเผยความรู้สึก หลังจากที่หวนกลับคืนสู่วงการอีกครั้ง
เขาเป็นผู้เล่นที่มีฝีมือดีอีก 1 คนของวงการ RoV หรือ Arena of Valor ของบ้านเรา ผู้ที่มีทั้งทักษะการเล่นที่ดีเยี่ยม บวกกับประสบการณ์ในวงการเกม MOBA มากมาย เขาได้หวนกลับคืนสู่วงการเกม RoV อีกครั้ง หลังจากที่หายไปจากวงการแรมปี
และในวันนี้ เราจะพามาพบกับบทสัมภาษณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา และความรู้สึกในการได้กลับสู่สนามดวลอีกครั้ง รวมถึงเรื่องราวความผิดหวังในอดีต บทสัมภาษณ์จะเป็นอย่างไรนั้น ไปพบกับบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive กันได้เลย
บทสัมภาษณ์
เริ่มด้วยการท้าวความถึงตอนแรกที่ได้เริ่มเข้าสู่วงการ RoV หรือ Arena of Valor อย่างจริงจัง โดยผู้สัมภาษณ์ได้เปิดประเด็นว่า “คุณเชรี่ ช่วยเล่าสักหน่อยได้ไหมครับ ว่าเส้นทางของคุณ ตอนนั้นคุณเริ่มเล่นเกม RoV นี้ได้อย่างไร ?”
“ตั้งแต่แรกเลยนะครับ ตอนนั้นมันเป็นช่วงที่ผมเลิกแข่งเกมเก่าใหม่ ๆ บวกกับเป็นช่วงที่ผมเพิ่งเรียนจบ ก็เลยหางานประจำทำ แล้วอยู่ ๆ วันนึง แฟนผมเขาก็มาชวนผมเล่นเกม ก็เกม RoV นี่แหละครับ ซึ่งเป็นวันแรกที่เกมเปิดด้วย แล้วผมก็ติดเกม MOBA อยู่แล้วด้วย ก็เลยลองเล่นดู”
จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้ เจ้าตัวยังเผยอีกว่า การที่ได้เล่น RoV บ่อย ๆ เล่นทุกวัน ทำให้รู้สึกว่าเกมมันสนุก และอยากลง Rank เล่นแบบจริงจังดูบ้าง
“แต่เอาจริง ๆ เล่น Rank กับแฟนมันก็ไม่ค่อยชนะหรอกครับ” เจ้าตัวกล่าวเสริม พร้อมกับเสียงหัวเราะ
“กลัวจะหัวร้อนไง ผมก็เล่นชวนเพื่อน ๆ ที่เคยแข่งเกมเก่า ๆ ให้มาเล่นด้วยกัน เล่นไปเล่นมาก็เริ่มสนุก ประจวบเหมาะกับที่ทาง Garena Thailand ได้จัดทัวร์นาเมนต์ใหม่ขึ้นมา เป็น Comunity Tournament พวกผมเลยตัดสินใจ ลงแข่งรายการนี้กัน หลังจากแข่งรายการนั้นเสร็จ พวกผมก็ลุยกันยาวเลยครับ” Pro Player หนุ่มกล่าว
โดยหนุ่ม เชรี่ และเพื่อน ๆ ได้ตัดสินใจลงแข่งขัน Community Tournament ของเกม Arena of Valor เป็นครั้งแรก ในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2017 ในรายการ Throne of Glory 2017 นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถคว้าตำแหน่ง Champion มาได้ ตั้งแต่รายการแรกที่ลงแข่ง นับว่าเป็นการเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียวสำหรับวงการนี้
ซึ่งไลน์อัพแชมป์ของพวกเขาในตอนนั้น ประกอบไปด้วย เชรี่, JameCo (ผู้เล่นทีม POPS Bacon Time ในปัจจุบัน), 007x (ผู้เล่นทีม POPS Bacon Time ในปัจจุบัน), Miffy (Streamer สาวของทีม POPS Bacon Time ในปัจจุบัน) ด้วยเหตุนี้ ทำให้พวกเขามีความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะเดินทางสายนี้อย่างเต็มตัว
ไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่พวกเขามุ่งสู่ทางเดินของ Pro Player แบบจริงจังแล้วนั้น พวกเขายังสามารถคว้าแชมป์มาได้ทุกการแข่งขันในประเทศไทย จนกระทั่งถึงการแข่งขัน RoV Pro Leage Season 1 พวกเขาก็ยังคงได้แชมป์มาครองอย่างต่อเนื่อง
“ก่อนที่ผมจะเข้ามาพากย์ให้กับการแข่งขัน RoV ผมก็ดูการแข่งขันตลอด ถ้าเห็นพวกคุณลงสนามแล้ว ผมปิดเลยก็ได้ เห็นแค่นี้ผมก็รู้แล้ว ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง” ผู้สัมภาษณ์แซวเชรี่ ก่อนที่เชรี่จะยิ้มเขิน พร้อมกับตอบปัดไปว่า “มันก็มีสูสีกันหลายครั้งแหละครับ”
และถึงแม้ว่าเกมจะดูสูสีเพียงใด พวกเขาก็เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุดเสมอ นอกจากนี้ พวกเขายังเคยเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งทัวร์นาเมนต์ต่างประเทศมาแล้วถึง 3 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ เวียดนาม เกาหลี และอเมริกา
สำหรับผลงานที่ผ่านมาของหนุ่ม Cherie มีดังนี้
ทีม POPS Bacon Time (2017 – 2018)
- 1st place : Throne of Glory 2017
- ติด 8 ทีมสุดท้าย : Arena of Valor International Championship – Asia 2017
- 1st place : RoV Major League 2017
- 1st place : RoV Pro League Season 1
- 2nd place : Arena of Valor World Cup 2018
- 3rd place : RoV Pro League Season 2
- 6th place : Arena of Valor International Championship 2018 Thailand Qualifier
ทีม Buriram United Esports (2019)
- 3rd place : RoV Pro League Season 3
ทีม Set Zero (2020)
- 7th place : RoV Valor Tournament 2020
ทีม eArena (2021)
- 7th place : RoV Pro League 2021 Summer
ซึ่งก่อนที่พวกเขาจะไปแข่งที่อเมริกานั้น สมาชิกในทีมได้มีการพูดคุย และตกลงกันอีกว่า ถ้าได้แชมป์จากรายการนี้ พวกเขาจะเลิกลงแข่งโปรลีกในทันที โดยเจ้าตัวเผยว่า อยากให้เป็นการปิดตำนานทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แต่ความฝันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาจบการแข่งขัน World Tour ที่อเมริกาไปได้ในอันดับที่ 2 ถึงแม้ว่าจะเป็นถึงรองแชมป์ก็จริง แต่ทุกคนในทีมก็ได้สัมผัสกับความผิดหวังไปไม่น้อย เนื่องจากทุกคนล้วนหวังจะเป็นที่ 1 ของการแข่งขันรายการนี้ทั้งนั้น
“ต้องบอกก่อนเลยนะครับ ว่าเรื่องนี้ผมไม่เคยบอกกับใครมาก่อน หลังจากที่พวกเรา Fail กัน จากการแข่งขัน World Tour ที่อเมริกากันมา ทุกคนในทีม ไม่มีใครคุยกันเลยครับ หลังจากแข่งเสร็จ ทุกคนคือแยกย้ายกันเดินกลับห้องพัก ก็มี 2 – 3 คนที่เสียใจจนร้องไห้ รอวันกลับบ้านกันอย่างเดียวเลย” เจ้าตัวเริ่มเล่าเหตุการณ์ ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
“แล้วเราทำอย่างไรกับสมาชิกบ้าง?” ผู้สัมภาษณ์ถามต่อ
“ผมก็พูดไปว่า เราทำดีที่สุดแล้ว ปลอบได้แค่นิดหน่อยครับ เพราะในตอนนั้น ตัวผมเองก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน” เจ้าตัวตอบพร้อมลั่นเสียงหัวเราะ
แต่หลังจากที่พวกเขาแบกรองแชป์กลับมาได้ไม่นาน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น มีทั้งเรื่องดี มีทั้งเรื่องร้าย จนทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องแยกทางกันไปคนละทิศในที่สุด
ซึ่งผู้สัมภาษณ์เอง ก็ได้กล่าวเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่า หลังจากที่พวกคุณกลับมาจากอเมริกา ก็มีการเปลี่ยนแปลงกันเกิดขึ้น ผมนึกไม่ออกเลยว่าคนที่อยู่ กิน เล่นเกมในบ้านเดียวกันมาแบบนี้ จะแยกย้ายกันไปอยู่คนละทีมแบบนั้นได้อย่างไร”
“เราอย่างที่รู้ ๆ กันแหละครับ ว่าก่อนหน้านี้ พวกเราทำทีมกันเอง มันไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว คุณจะเข้า หรือจะออก มันก็เป็นเรื่องปกติ มันไม่มีอะไรยู่แล้ว”
และหนุ่มเชรี่ ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “จริง ๆ แล้ว พวกเราก็ได้มีการพูดคุยกัน เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทาง ความเป็นไปได้ต่าง ๆ ของทีมในอนาคตมาบ้าง เพราะก่อนหน้านี้ เราตกลงกันแล้วว่าจะพักแข่ง แต่ก็มีบางคนที่ยังอยากจะแข่งต่อ”
“แต่พวกคุณก็ยังร่วมกันสร้างบริษัทด้วยกันมาไม่ใช่หรือ” ผู้สัมภาษณ์ถามด้วยความอยากรู้
“ใช่ครับ พวกเราตกลงกัน ว่าจะเลิกแข่งจริงจัง แล้วหันมาทำ Content ลง YouTube อะไรแบบนี้แทน” เชรี่ตอบ
ในตอนนั้น ทุกคนในทีมล้วนวางมือจากการแข่งขันกันหมด แต่พวกเขายังไม่ได้ปิดตำนาน ด้วยการคว้าแชมป์เหมือนที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ทำให้บางคนยังอยากที่จะแข่งต่อ และหนุ่มเชรี่เอง ก็เป็น 1 ในนั้น
ผู้สัมภาษณ์ จึงได้ถามขึ้นในทันทีว่า “นี่เป็นเหตุผล ที่ทำให้คุณตัดสินใจ ตกปากตอบรับคำของ FirstOne ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ แต่ไปเล่นได้เพียงซีซั่นเดียว ก็เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น” เชรี่ตอบ
ข่าวร้ายสายฟ้าแลบ
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพวกเขา เรียกว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของวงการเกม RoV เลยก็ว่าได้ ถ้าแฟน ๆ คนใด ที่ได้ติดตามข่าวสารเกมตีป้อมเกมนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รับรองว่าไม่มีใครไม่รู้เรื่องนี้แน่นอน
นั่นคือ การประกาศยกเลิกสัญญาแบบสายฟ้าแลบ ของสโมสร Esports ชื่อดังดับต้น ๆ ของบ้านเราอย่าง Buriram United Esports กับ 4 ผู้เล่นไฟแรงในยุคนั้น ได้แก่ Cherie, ReMix, JameCo และ MeMarkz ทำเอาแฟนเกมหลายคนต่างช็อกไปตาม ๆ กัน ก่อนที่ทางสโมสรจะเผยรายละเอียดออกมาให้ได้ทราบในเวลาต่อมา
“ก่อนที่พวกคุณจะเทกระจาดกัน มันเกิดอะไรขึ้นบ้างครับ” ผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามอย่างไม่รอช้า
“ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าตอนนั้นผมทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมด้วย ผมก็พยายามฟังปัญหาจากทุกฝ่าย ฟังปัญหาของทางนู้นบ้าง ฟังปัญหาของทางนี้บ้าง แล้วผมก็มาคิดว่าผมควรจะทำยังไงดี”
“ด้วยความรักเพื่อน บางครั้งผมก็ไปออกตัวแทนพวกเขา แต่จริงต้องบอกเลยว่าผมรักมาก ๆ ผมรักทุกคนในทีมมาก ผมยอมโดนด่า โดนใครต่อใครว่าอะไรก็ได้ ผมยอมได้หมด เพื่อให้เพื่อน ๆ ของผมดูดีก็ได้ ผมทำหมด”
“ถ้าจะมาบอกว่าผมเห็นแก่ตัวนะครับ เอาจริง ๆ ถ้าผมเห็นแก่ตัว ผมไปเลยก็ได้ ไปตั้งแต่ตอนนั้นเลย แต่ผมไม่อยากไปคนเดียว จะไปไหนผมพยายามพาทุกคนไปด้วยกันเป็นก้อนตลอด แต่ด้วยเหตุนี้ มันก็ทำให้เรามีปัญหาภายในกันมากพอสมควรอยู่ จนถึงขั้นที่หลาย ๆ คนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนั่นแหละครับ” หนุ่มเชตอบ
“นี่คงจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกคุณต้องแยกกันใช่ไหมครับ?” ผู้สัมภาษณ์ถามด้วยความสงสัย
หนุ่มเชสูดหายใจเข้าสุดปอด ก่อนที่จะเผยเรื่องราวให้เราได้ฟังต่อว่า “ครับ มันเหมือนเป็นช่วงมรสุมชีวิตของผมเลยตอนนั้น ทั้งผลงานไม่ดี Pro League ใหม่ก็กำลังจะเปิดการแข่งขัน ทุกคนอาจจะเห็นว่าผมไม่เป็นไรนะครับ แต่ความจริงแล้วผมคิดเยอะมาก เราต้องแบกรับอนาคตของเพื่อนและทีมไว้”
“ผมนอนกอดตุ๊กตาร้องไห้อยู่คนเดียวเกือบทุกคืน”
“แล้วต้องห้ามร้องเสียงดังด้วยนะครับ เดี๋ยวคนอื่นรู้” หนุ่มเชปล่อยมุก เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเครียดเกินไป
“แล้วเรากลับมาแข่งอีกครั้งได้อย่างไร พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมครับ”
“จริง ๆ พี่ป้อม พี่ที่สนิทกับผม เขาชวนผมมาลงแข่งหลายเดือนแล้วครับ ตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น แต่ตอนนั้นผมยังไม่พร้อม เราเลยตกลงกันว่าจะลงแข่งจริงจังในช่วงกลางซีซั่นดีกว่า”
และในวันนี้ เขาก็ได้หวนคืนสู่วงการตีป้อม RoV อย่างเป้นทางการแล้ว ถึงแม้ว่าในการแข่งขันครึ่งหลังที่เหลือ ผลงานโดยรวมของเขาและเพื่อน ๆ ในทีม อาจจะยังไม่เป้นที่น่าพอใจนัก แต่เขาก็ได้ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว และเขายังทิ้งท้ายไว้อีกว่า
“ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ผมก็ยอมรับได้ครับ ตอนนี้ความคิดของผมมันไม่เหมือนตอนเด็ก ๆ อีกแล้ว ผมคิดแค่ว่า เราแค่ทำให้เต็มที่ก็พอ ถ้าเราทำเต็มที่ เดี๋ยวทุกคนก็จะเห็นเอง”
สำหรับหนุ่ม Cherie และเพื่อน ๆ ในทีม eArena พวกเขาจบการแข่งขัน RPL 2021 Summer ไปได้ด้วยอันดับที่ 7 เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นลำดับสุดท้าย แต่พวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นในตลอดทั้งการแข่งขันที่ผ่านมาแล้วว่า สำหรับทีมน้องใหม่ ก็นับว่าเก่งกันมาก ๆ แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปผลการแข่งขัน RPL 2021 Summer รอบ Regular Season : Week 7 Day 2
