Top 20 Players

Top 20 Players! แห่งวงการ CS:GO ปี 2020 อันดับ 10-1

CSGO บทความ

นี่คือการจัดอันดับผู้เล่นที่มีผลงานดีที่สุดในโลก Top 20 Players โดย HLTV.org  และแล้วก็มาถึง Top 10 ของการจัดอันดับครั้งนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีใครบ้าง และใคร!? คืออันดับ 1 ของโลกประจำปี 2020

10. Florian “⁠syrsoN⁠” Rische

เขาคือมือ AWPer ระดับท็อปของวงการในปัจจุบัน เขาโชว์ฟอร์มในการแข่งขันระดับ Elite อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้สามารถชิงอันดับที่ 10 ของโลกมาอยู่ในมือได้สำเร็จ กับ Top 20 Players 2020

เช่นเดียวกับคนอื่นๆ อีกมากมายที่ได้รับรางวัล HLTV Top 20 ประจำปีนี้ syrsoN ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Counter-Strike โดยพี่ชายของเขาตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเขาอายุได้ประมาณ 10 ปี ความสนใจในการเล่นเกม CS นั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มต้นกับ CS: Source ก่อนที่จะเปลี่ยนมาสู่ CS:GO และเข้าร่วมวงการแข่งขันระดับประเทศหลังจากนั้นไม่นาน

การแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ syrsoN ในการบันทึกสถิติของ HLTV ต้องย้อนกลับไปในปี 2012 เมื่อเขาเป็นตัวแทนของทีม gamed! de ในการลงแข่ง ESL Pro Series Germany Winter Season 2012 ขณะนั้นเขาเล่นในบทบาทของมือปืนไรเฟิล

เขาเป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดในทีมของเขา เรตติ้งอยู่ที่ 1.19 จาก 18 แผนที่ แต่ถึงแม้จะได้รับเงินเดือน และขึ้นสู่ระดับสูงสุดในประเทศอย่างรวดเร็ว เขาก็มุ่งมั่นที่จะมีเวลาให้กับการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง การตัดสินใจวางบทบาทการแข่งเกมในตำแหน่งรองจากการศึกษา ดูเหมือนจะสะท้อนให้เห็นถึงผลงานของเขาได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากเขาใช้เวลาถึงห้าปี ก่อนที่จะกลับมาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นของทีมอีกครั้ง สองปีต่อมา syrsoN บันทึกสถติการแข่งขันไปเพียง 16 นัดเท่านั้น แต่เมื่อเขาได้ย้ายไปอยู่ทีม Planetkey ซึ่งเขาจะได้เจอกับเพื่อนร่วมทีมคนสำคัญอย่าง Tizian “⁠tiziaN⁠” Feldbusch ซึ่งถือเป็นเพื่อนร่วมทีมคนปัจจุบันของเขาอีกด้วย และอดีตสมาชิกทีม Sprout อย่าง clas “⁠enkay J⁠” Krumhorn อีกหนึ่งคน

ทีมเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศของเยอรมันเป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งมีผลงานการแข่งขันในเวทียุโรปมากนัก syrsoN อธิบายในภายหลังว่าเพราะทีมมีความพยายามยังไม่มากพอ ที่จะก้าวเข้าสู่สังเวียนยุโรปในตอนนั้น

เขาประสบความสำเร็จและเริ่มสร้างชื่อเสียงกับทีม Sprout และแสดงคลาสการเล่นที่น่าประทับใจ โดยการแข่งขันแบบออนไลน์มีสถิติอยู่ที่ 1.16 เรตติ้ง ส่วนแบบ LAN สถิติอยู่ที่เรต 1.18 การแข่งขันที่เขาโดดเด่นและถูกพูดถึงเป็นอย่างมากคือ PGL Krakow 2017 Major และ ESL One Cologne 2018

หลังจากอยู่กับ Sprout เป็นระยะเวลาหนึ่ง เขาได้ย้ายไปสู่ทีม BIG พวกเขาเริ่มปี 2020 ในอันดับที่ 46 ของโลก BIG เริ่มต้นได้ไม่สวยนักนั่นคือการแพ้คู่แข่งในประเทศอย่าง Sprout ทีมเก่าของเขาเองในนัดแรกที่เล่น และไม่ผ่านเข้ารอบ DreamHack Open Anaheim เพราะถูกตบโดยทีม AVEZ ตกรอบไป

ทีมสัญชาติเยอรมันไม่มีพื้นที่ในการแข่งขัน IEM Katowice ซึ่งเป็นงาน LAN ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีนี้ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะพัฒนาทีมในงาน DreamHack Open Leipzig แม้จะเป็นทีมที่มีอันดับต่ำสุดที่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ BIG ก็ชนะการแข่งขันโดยมีสถิติแพ้เพียงเก้ารอบต่อแผนที่ ซึ่งค่าเฉลี่ยนี้ดีกว่าทีมระดับ Top อย่าง Heroic และ MAD Lions อย่างเห็นได้ชัด

syrsoN เป็น AWPer ที่ดีที่สุดของปี 2020 ในทางสถิติด้วยการฆ่า 0.47 โดยใช้ AWP ของเขาต่อรอบ ซึ่งเป็นการจัดอันดับให้เขาคือคนแรกในเมตริกนี้ และนำหน้าคู่แข่งอยู่พอสมควร นอกจากนี้ค่าเฉลี่ยรายปีของเขายังสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ 20 อันดับแรกอีกด้วย

มันสูงกว่าตัวเลขของ Nicolaj “⁠Nico⁠” Jensen ในปี 2013 (0.45) และ Ladislav “⁠GuardiaN⁠” Kovács ตั้งแต่ปี 2016-2018 (0.44) เสียอีก นี่คือเครื่องยืนยันผลงานส่วนตัวของเขาว่าทำไมเขาถึงติด Top 10 ในครั้งนี้

Top 20 Players
9. Peter “⁠dupreeh⁠” Rasmussen

ถ้าพูดถึงชื่อของ Astralis ในตอนนี้ คงไม่มีใครแปลกใจว่าทีมรวมยอดฝีมือทีมนี้จะมีสมาชิกทยอยติดอันดับกันมาหลายคน จากผลงานที่พวกเขาได้ทำไว้ และนี่คือ Peter “⁠dupreeh⁠” Rasmussen กับผลงานการเล่นในระดับสูงพร้อมทั้งความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่น เขาจึงเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 9 ครั้งนี้ กับ Top 20 Players 2020

dupreeh เริ่มต้นจากการเป็นผู้เล่นอายุน้อย ที่หลายๆ ทีมนั้นต้องการตัวในวงการ Counter-Strike: Source แต่เขาไม่ได้เล่นให้กับทีมที่มีชื่อเสียงใดๆ จนกว่าเขาจะเปลี่ยนมาเล่น CS:GO ในปี 2012 ไม่นานหลังจากเกมใหม่มาถึง เขาก็ได้เป็นคนแรกที่มีโอกาสเล่นกับทีม 3DMAX และเริ่มได้รับประสบการณ์ในการแข่งขันแบบ LAN ระดับนานาชาติครั้งแรก

หลังจากนั้นเขาเตรียมย้ายไปร่วมทีม CPH Wolves ที่ได้รับการยกย่องในช่วงต้นปี 2013 ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดของประเทศเวลานั้น เขาได้ร่วมงานกับ Nicolai “⁠device⁠” Reedtz และต่อมาในปีเดียวกัน เขาได้เล่นกับ Andreas “⁠Xyp9x⁠” Højsleth เพื่อเพิ่มมาตรฐานในระดับสูงให้กับทีม

ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบแปดปีแล้ว dupreeh และเพื่อนๆ เล่นด้วยกันมาตลอด พวกเขาไม่ชนะรายการใดเลยในปีนั้นที่พวกเขาเริ่มรวมตัวกัน นอกเหนือจากตอนที่เขาเป็นตัวแทนของประเทศเดนมาร์กในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เมื่อพวกเขาผ่านเข้ารอบตัดเชือกที่เมเจอร์แรกในรายการ DreamHack Winter 2013

และ dupreeh ได้เปิดตัวในการจัดอันดับ Top 20 เป็นครั้งแรก ในอันดับที่ 18 เมื่อทีมสัญชาติเดนมาร์กเริ่มเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์อย่างจริงจัง หลังจากที่พวกเขาเปลี่ยนไปเล่นในนามของ Dignitas มือปืนวัย 27 ปีก็พัฒนาขึ้นจากอันดับที่ 18 ขึ้นสู่อันดับที่ 16 ในปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่ทีมได้รับการจดจำอย่างมากจากการเล่นรอบรองชนะเลิศในการเจอกับ NIP

จากนั้นทีมก็เริ่มปรากฏตัวในการแข่งขันระดับสูงอย่างต่อเนื่องในปี 2015 เมื่อ Finn “⁠karrigan⁠” Andersen มือปืน IGL ชื่อดังเข้ามาแทนที่ Henrik “⁠FeTiSh⁠” Christensen ด้วยการมีผู้นำในเกมคนใหม่ dupreeh และเพื่อนๆ สามารถคว้าแชมป์สามรายการติดต่อกันในช่วงครึ่งปีแรก และได้รับการยกย่องว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดของโลกในช่วงยุค fnatic รุ่งเรือง ก่อนเปลี่ยนมาสู่ยุคของ Astralis

หลังจากที่พวกเขาประสบความสำเร็จในช่วงปลายปี 2019 Astralis ชนะสามในสี่ทัวร์นาเมนต์ล่าสุดก่อนเข้าสู่ปี 2020 ในฐานะทีมที่ดีที่สุดของโลก แต่เมื่อพวกเขาเข้าร่วมงาน BLAST Premier Spring Series ที่ลอนดอน dupreeh ในวัย 27 ปี สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้เป็นหนึ่งในผลงานที่แย่ที่สุดในอาชีพการงานของเขา

เมื่อต้องเจอกับ Natus Vincere, Complexity และ Vitality ทีมสัญชาติเดนมาร์กโดนตบตกสู่เวที Showdown หลังจากพ่ายแพ้ให้กับทีมของ Benjamin “⁠blameF⁠” Bremer – Complexity และทีมของ Aleksandr “⁠s1mple⁠” Kostyliev – NaVi

หลังช่วงเวลาอันเลวร้ายผ่านไป gla1ve ก็กลับมาอีกครั้ง หลังหยุดพักแข่งเป็นเวลานาน การรวมทีมแบบครบทุกรายชื่อเกิดขึ้นที่ ESL Pro League Season 12 แม้ gla1ve ไม่ได้กลับมาเป็นผู้นำในเกมเลยในทันที ทีมก็ยังคงมีผลงานที่ดีอยู่ หลังจากนั้น Astralis ก็ขึ้นสู่การแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะหกครั้งติดต่อกัน

แต่ก็ต้องมาพ่ายแพ้ในการเปิดตัวกับ Heroic ส่งพวกเขาไปยังสายล่างของรอบตัดเชือก ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาทีมสามารถชนะได้หมดทั้งรายการ โดย dupreeh เป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในการแข่งขันครั้งใหญ่ครั้งนี้ ในขณะที่เขากดเรตติ้งไป 1.00 ในแผนที่ทั้งหมด 13 แผนที่ และกลับมารับรางวัล EVP ของรายการได้อีกครั้ง หลังจากห่างหายมานาน

dupreeh ไม่ได้โดดเด่นอะไรเป็นพิเศษในแง่ของสถิติพื้นฐาน แต่ยังคงอยู่ในตัวเลขที่ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของโปรเพลเยอร์ทั่วไปด้วย 0.70 KPR, 0.64 DPR, 1.10 ดาเมจที่ทำได้และ 71.2% KAST อย่างไรก็ตาม Astralis จะชนะ 70.7% ของรอบที่เขาสามารถฆ่าได้อย่างน้อยหนึ่งคน (คิดเปอร์เซ็นต์สูงสุดของผู้เล่นทั้งหมด) และ 83.1% ของรอบที่เขาทำแต้มฆ่ามากกว่าหนึ่งคน (คิดเปอร์เซ็นต์สูงสุดเป็นอันดับสองรองจาก Andrei “⁠arT⁠” Piovezan ของ FURIA)

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องพูดถึงการเล่นของ dupreeh ที่ดีขึ้นเมื่อมีความท้าทายเข้ามาทดสอบเขา ในการแข่งขันระดับสูงอย่าง BLAST Finals ค่าเฉลี่ยที่ทำได้อยู่ที่ 1.11 เรตติ้งใน 172 แผนที่ เมื่อคุณพิจารณาเฉพาะอีเวนต์การแข่งขันระดับสูงทั้งหมดแปดรายการที่เขาลงเล่น เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่มีคะแนนสูงสุดอันดับเก้าด้วยเรตติ้ง 1.12 ใน 116 แผนที่เลยทีเดียว

Top 20 Players
8. Jonathan “⁠EliGE⁠” Jablonowski

Jonathan “⁠EliGE⁠” Jablonowski มีการเล่นในรอบเพลย์ออฟที่แข็งแกร่งมาก จนทำให้เขาก้าวขึ้นมาในอันดับ 8 ของการจัดอันดับโลกในปัจจุบันได้สำเร็จ

EliGE เล่น Counter-Strike 1.6 เพื่อผ่อนคลายจากการเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ให้ความสำคัญกับ StarCraft 2 มากกว่าในตอนนั้น เขาเล่นเกมวางแผนกลยุทธ์แบบเรียลไทม์เพื่อค้นหาความตื่นเต้นของการแข่งขัน แม้ว่าในที่สุดเขาก็เริ่มเบื่อมันไปทีละน้อยและหันไปหาความตื่นเต้นใหม่ นั่นก็คือเกม CS:GO ที่ผลิดโดย Valve ในปี 2013

หลังจากที่ได้ลองเล่นเวอร์ชันใหม่ในช่วงเบต้า เจ้าหนูก็ก้าวขึ้นสู่การติดอันดับของ ESEA ในอเมริกาเหนืออย่างรวดเร็ว และเขาเริ่มแข่งขันกับ ⁠”ptr⁠” ใน Justus Pro ก่อนจะสานต่อผลงานของเขา ภายใต้การนำทีมของ David “⁠Xp3⁠” Garrido และ Tyler “⁠Storm⁠” Wood in eLevate ซึ่งเป็นทีมที่เขาสามารถจบอันดับที่ 3 – 4 ใน ClutchCon ปี 2015 หลังจากเอาชนะ Tarik “⁠tarik” Celik ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และเข้าไปตบ Cloud9 ในรอบรองชนะเลิศได้อีกด้วย

EliGE เริ่มก้าวย่างเข้าสู่การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในปี 2017 หลังจากที่ s1mple ออกจากทีม Liquid ที่เขาสังกัดอยู่ เขาต้องเพิ่มความรับผิดชอบมากขึ้นในการนำทีม Liquid ปีนั้นเป็นปีที่เขาสร้างผลงานได้ดี ไม่มีการติดลบทางสถิติใดๆ ของทีมเลย และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดอันดับที่ 12 ของปี 2017 อีกด้วย

ซึ่งนั่นคือครั้งแรก ที่เขาปรากฏตัวในการจัดอันดับผู้เล่น 20 อันดับแรกของโลก สำหรับการเล่นที่สม่ำเสมอตลอดทั้งปี และความพยายามอย่างมากในการนำทีมเข้ารอบลึกๆ ในงานอีเวนต์ต่างๆ เช่น ESG Tour Mykonos และ ESL One New York พวกเขาสามารถจบที่อันดับสอง

มือปืนไรเฟิลสัญชาติอเมริกันคนนี้ ยังคงสร้างผลงานอย่างต่อเนื่องในปี 2018 และเป็นอีกครั้งที่เขากลายเป็นหนึ่งใน 20 ผู้เล่นที่ดีที่สุดของการจัดอันดับ คราวนี้เขาอยู่อันดับที่ 15 พวกเขาเอาชนะการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกที่ cs_summit 2 และ SuperNova Malta CS:GO และทำการแข่งขันรอบสุดท้ายของปีในอีเวนต์ที่ใหญ่กว่าเดิม คือ ESL Pro League Season 7 และ Season 8 Finals, ECS Season 5 Finals, ELEAGUE Premier, ESL New York รวมถึง IEM Chicago อีกด้วย

Liquid เริ่มต้นปีนี้บนการแข่งขันรายการ LAN พวกเขาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม BLAST Premier Spring Series ในลอนดอน และก็โดนส่งไปเล่น Showdown โดย FaZe จากนั้นทีมสัญชาติอเมริกาเหนือเดินทางไปโปแลนด์เพื่อเล่นงาน LAN ที่ยิ่งใหญ่เพียงรายการเดียวของปี นั่นก็คือ IEM Katowice

พวกเขาเริ่มต้นด้วยชัยชนะสองครั้งเหนือ Evil Geniuses และ Virtus.pro แต่สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อต้องเจอกับ G2 และ Natus Vincere ที่ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับ Team Liquid

Team liquid ออกจากการแข่งขันไปในอันดับที่ 5-6 แม้ว่าจะไม่ได้เข้าสู่รอบตัดเชือก แต่ EliGE ก็ได้รับ EVP ครั้งแรกของปี ด้วยคะแนน 1.18 ดาเมจที่ทำได้1.35 และ 87.5 ADR ในเก้าแผนที่ของทีมที่เล่นตลอดการแข่งขันทั้งหมด

Top 20 Players
7. Robin “⁠ropz⁠” Kool

ผลงานการเล่น MAP ต่อ MAP ที่มีสถิติดีที่สุด และการได้เล่นแมตช์การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนำเขาอยู่จุดนี้ในอันดับที่ 7 กับ Robin “⁠ropz⁠” Kool ตัวโหดของ mousesports

ropz ได้วางเส้นทางด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนใคร สำหรับการเป็นผู้เล่นมืออาชีพในเวลานั้น เด็กหนุ่มชาวเอสโตเนียเริ่มสนใจในเกม Counter-Strike: Global Offensive ตอนช่วงปี 2014 ก่อนหน้านี้เขาได้ทดลองเล่น Call of Duty เป็นระยะเวลาสักพักหนึ่ง ก่อนที่เพื่อนในโรงเรียนจะบอกเขาว่า CS:GO นั้นมันสนุกแค่ไหนและให้เขาไปลองเล่นมันดู

เช่นเดียวกับผู้เล่นส่วนใหญ่ ในตอนแรก ropz หันไปหาการแข่งขันระดับประเทศและระดับภูมิภาคก่อนสิ่งอื่นใด เขาเริ่มมองหาเพื่อนร่วมทีมที่จะพาให้เขาไปถึงฝั่งฝัน แต่ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าการมาจากเอสโตเนียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรน้อยกว่าหนึ่งล้านคน กำลังจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฝันของเขาที่จะได้ลงแข่งนั้นไม่เป็นจริง

ดังนั้นเขาจึงออกเดินทางเข้าสู่การเป็นโปรเพลเยอร์ในแพลตฟอร์ม FACEIT และสร้างชื่อให้ตัวเองด้วยวิธีนั้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็มีคุณสมบัติเข้าแข่ง FPL Challenger ในเดือนเมษายน 2559 และก้าวไปอีกขั้นด้วยการได้รับตำแหน่งใน FPL (FACEIT Pro League) ก่อนสิ้นปี ก่อนที่เขาจะไปสร้างชื่อกับ mousesports จนถึงปัจจุบัน

การแข่งขัน Major ครั้งแรกหลังจากที่เขาเข้าร่วมกับ mousesports นั้นไม่ค่อยดีนัก จากเหตุการณ์นั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงบัญชีรายชื่อของทีม โดยมีการเพิ่มของ Martin “⁠STYKO⁠” Styk และ Miikka “⁠suNny⁠” Kemppi เข้าสู่ทีม

หลังเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขาชนะการแข่งขันที่ ESG Tour Mykonos 2017 และเข้าสู่รอบเพลย์ออฟที่กินเวลาถึง 11 อีเวนต์สำหรับการแข่งขันแบบ LAN และรวม ELEAGUE 2018 Major เข้าไปด้วย นี่ก็เป็นครั้งแรกของ ropz อีกเช่นกัน ที่มาถึงเวที Major นี้ได้สำเร็จ ในช่วงเวลานั้น

ropz ยังชนะการแข่งขัน 2 รายการคือ StarSeries i-League Season 4 และฟาดเงินรางวัลรวม $ 600,000 V4 Future Festival 2018 ไปนอนกอด หลังจากนั้น ropz ไม่ได้เป็นดาราหลักของทีมอีกต่อไปในปี 2018 หรือ 2019 โดยสามารถจบการแข่งขันอย่างพอรับได้เพียงแค่รายการเดียว ในฐานะผู้เล่น mousesports ที่มีคะแนนสูงสุดในปี 2018 และสามรายการในปี 2019 ในปี และในปี 2020 ทุกอย่างนั้นกำลังจะเปลี่ยนไป

“ผมไม่คิดว่าเราจะเริ่มต้นได้ดีขนาดนี้ สำหรับพวกเรา mousesports” ropz กล่าวหลังจากที่ทีมของเขาได้รับรางวัลชนะเลิศที่ ICE Challenge 2020 ในเดือนกุมภาพันธ์ มันเป็นทัวร์นาเมนต์ LAN แรกของปี พวกเขาโชว์การโค่น Natus Vincere ในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยการแข่งขันรูปแบบ BO5

ropz มีอิทธิพลมากในชัยชนะทุกรอบที่ทีมทำได้ โดยมีเรตติ้ง 1.21 และการเสียชีวิตต่อรอบต่ำสุดของปีคือ 0.57 ทำให้ตัวเองได้รับเสนอชื่อ EVP จากการแข่งขันในลอนดอน ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ IEM Katowice

เขาเก่งเป็นพิเศษในการเล่นแบบ fragging ค่าเฉลี่ยการฆ่ามากที่สุดเป็นอันดับสี่ต่อรอบ (0.78) การฆ่าหลายครั้งในอัตราสูงสุดอันดับสาม (19.8% ต่อรอบของเขา) และ headshot บ่อยมาก (0.41 ต่อรอบ โดยรวมสูงสุดเป็นอันดับสาม) แม้ว่าทีมของเขาจะมีผลการแข่งขันที่ผันผวนมาก แต่ ropz ก็ยังคงเป็นนักแข่งที่มีเสถียรภาพสูง เขาได้รับการบันทึกเรตติ้งต่ำกว่า 1.00 ในงานแข่งสุดท้ายของเขาเท่านั้น

เขามีความสม่ำเสมอในทุกระดับ KAST 72.3% แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน การมีส่วนร่วมกับเกมและช่วยเหลือเพื่อน (สูงสุดอันดับที่ 19) และความสอดคล้องในการเล่นระหว่างแผนที่ต่อแผนที่ของเขาอยู่ในระดับที่ดีมากคือ 1.00+ ใน 76% ของแผนที่ๆ เล่น (สูงสุดเป็นอันดับสี่)

การเล่นในบิ๊กแมตช์ของเขาเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาโดดเด่น เขาได้เรตติ้งเฉลี่ย 1.21 ในรอบตัดเชือกของอีเวนต์ใหญ่ (ดีที่สุดอันดับหก) แต่มันไม่เคยส่งผลให้เขาได้รับเหรียญ MVP แต่เขามีผลงาน EVP ที่ดีมากถึงสี่ครั้ง รวมทั้งใน ESL Pro League ทั้งสองฤดูกาลด้วย ในฐานะผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีม

Top 20 Players
6. Benjamin “⁠blameF⁠” Bremer

Benjamin “⁠blameF⁠” Bremer หนึ่งในผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบัน กับความสามารถและฝีมือในระดับสูง ส่งผลให้เขาติดในอันดับที่ 6 ของโลก CS:GO กับ Top 20 Players 2020

คนอื่นๆ อาจเริ่มต้นจากการไต่เต้าในการแข่งขันจากระดับชุมชน จนไปถึงระดับประเทศแต่ไม่ใช่กับ blameF เขาเริ่มต้นจากระดับสูงของการแข่งขันตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วงการ เขาได้พบกับ Nicolai “⁠HUNDEN⁠” Petersen ที่ช่วยให้เขาก้าวไปอีกขั้น ก่อนที่จะเข้าร่วมทีมอย่าง North หรือ Heroic และสร้างชื่อของตัวเองในวงการ จนทำให้ทุกคนรู้จักในปี 2018

เขาได้สัมผัสกับการแข่งขัน LAN ในรอบคัดเลือก BYOC ของ Copenhagen Games ในปี 2018 เป็นครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นเขาอยู่กับทีมสัญชาติเดนมาร์ก Great Danes และสามารถเอาชนะทีมที่มีชื่อชั้นเหนือกว่า นั่นก็คือ LDLC ของ Mathieu “⁠Maniac⁠” Quiquerez ได้

แม้ว่า Great Danes จะไม่สามารถผ่านเข้ารอบในทัวร์นาเมนต์หลักได้ แต่นั่นก็เป็นการเน้นย้ำถึงชัยชนะที่พวกเขาทำได้เหนือทีมใหญ่หลายๆ ทีม การเล่นในซีรีส์นั้นของ blameF ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของชุมชนเป็นครั้งแรก

blameF กำลังโชว์ฟอร์มดีขึ้นเรื่อยในการเล่นระดับสูง หลังจากนั้นเขาย้ายไปอยู่กับทีม Heroic โดยมีเรตติ้ง 1.18 เฉลี่ยในการดำรงตำแหน่งตัวจริงแปดเดือนกับทีม ขณะที่เขาเล่นในรายการใหญ่เป็นครั้งแรก เช่น IEM Sydney, ESL Pro League Season 9 Finals และ ESL One Cologne กับบทบาทการเป็น IGL ทั้งๆ ที่เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นาน เพราะคนอื่นๆ ในทีมไม่สามารถเล่นในบทบาทผู้นำในเกมได้

ก่อนที่ปีนี้จะใกล้เข้ามา blameF ได้เปลี่ยนทีมอีกครั้ง เขาไปเข้าร่วมกับ Complexity ที่มี William “⁠RUSH⁠” Wierzba อยู่ในทีม พร้อมทั้งเสริม Valentin “⁠poizon⁠” Vasilev และ Kristian “⁠k0nfig⁠” Wienecke ได้เข้าสู่บัญชีรายชื่อผู้เล่นตัวจริงใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปี 2020

Complexity รูปโฉมใหม่ในปี 2020 พวกเขายังคงเล่นอยู่ในสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม เพื่อเล่นรอบคัดเลือกสามรายการสำหรับ IEM Katowice, DreamHack Open Leipzig และ DreamHack Open Anaheim พวกเขาประสบความสำเร็จในช่วงสุดท้าย เมื่อทีมสามารถจบอันดับสามกับการแข่ง LAN ทั้งสองรายการได้

มาถึง BLAST Premier Spring Series แม้จะอยู่ในรายการได้ไม่นานแล้วก็ต้องออกจากการแข่งขันไป แต่ส่วนผสมผู้เล่นใหม่ล่าสุดนี้ ก็สร้างความประทับใจให้กับกองเชียร์ได้มากพอสมควร ในลอนดอนพวกเขาเอาชนะ Astralis และ Vitality เพื่อก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่จะแพ้ Natus Vincere ในตอนท้าย โดยผลงานของ blameF คงเส้นคงวาอย่างต่อเนื่องตลอดการแข่งขันเลยก็ว่าได้

blameF แสดงความสม่ำเสมอที่อยู่ในระดับสูงอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับปี 2020 เขาจบการแข่งขันเก้าจากสิบเอ็ดอีเวนต์ด้วยผลงานที่สุดยอด เก็บเรตติ้งอย่างน้อย 1.19 โดยเฉลี่ย ในเจ็ดจากเก้ารายการนั้น เขาได้รับการเสนอเป็น EVP ของการแข่งขัน เขาทำคะแนนได้อย่างน่าทึ่งและที่โดดเด่นที่สุดคือ 82.3 ADR (อันดับห้า) KAST 73.7% (อันดับหก) และ 0.59 DPR (น้อยที่สุดอันดับห้า)

Top 20 Players
5. Denis “⁠electronic⁠” Sharipov

Denis “⁠electronic⁠” Sharipov ความพยายามที่ยอดเยี่ยมของเขา ในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทั้งหมดนั้นทำให้ผู้เล่นชาวรัสเซียคนนี้อยู่ในอันดับที่ห้าในการจัดอันดับผู้เล่น 20 อันดับแรกของปี 2020

electronic มีจุดเริ่มต้นที่ผิดปกติจากคนอื่นๆ ในการจัดอันดับ เมื่อเทียบกับผู้เล่นหลายคนในช่วงอายุของเขา เนื่องจากเขาไม่ได้ไต่อันดับผ่านเกมในระบบต่างๆ เช่น FPL หรืออื่นๆ เขาเริ่มเล่น Counter-Strike 1.6 ในช่วงต้นปี 2010 ตอนอายุ 11 ปี แต่หลังจากแพ้ซ้ำๆ ในการแข่งขันระดับท้องถิ่น เจ้าหนูก็หยุดพักจากการแข่งขันเป็นเวลาหลายปี

เด็กหนุ่มถูกเชิญชวนในปี 2015 โดย Aleksandr “⁠toff⁠” Shelop ผู้เล่นที่เขาเคยพบในเซิร์ฟเวอร์ KZ และให้ไปเข้าร่วมกับ Dmitry “⁠hooch⁠” ACES ของทีม Bogdanov ซึ่งเป็นทีมที่เขาจะลงเล่นเป็นทีมแรกในอาชีพนักแข่ง กิจกรรมออฟไลน์ที่โดดเด่นตอนนั้นคือ CIS LAN Championship ทัวร์นาเมนต์นี้จัดขึ้นที่ Voronezh มันเป็นสถานที่ๆ เล่นด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นนัดแรกของเขา และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อ Electronic

สถิติต่างๆ ครั้งนั้นถูกบันทึกโดย HLTV เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีลงเอยด้วยเรตติ้ง 1.05 ในขณะที่ทีมของเขาจบอันดับสามตามหลังสองทีมที่มีชื่อเสียงอย่าง FlipSid3 และ HellRaisers แม้ว่าหลังจากนั้นตัวของเขาจะถูกคัดออกจากบัญชีรายชื่อก็ตาม เขาไม่ผ่านการพิสูจน์ฝีมือกับทีม แต่เด็กหนุ่มยังคงไม่ย้อท้อและก้าวต่อไป

จากนั้นเขาก็ย้ายไปที่ Evolution ทีมสัญชาติเบลารุส ซึ่งเขาได้รับเงินเดือนเพียงเล็กน้อยเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นไม่นานเขาและเพื่อนร่วมทีม Sergey “⁠spaz⁠” Skrypchik และ Roman “⁠CyberFocus⁠” Dergach ย้ายไปที่ Rebels และได้เล่นในงานระดับไมเนอร์อย่าง StarLadder Regional Minor Championship CIS

เขาเป็นผู้เล่นที่มีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสามในการแข่งขันครั้งนั้น ด้วยคะแนน 1.15 เรตติ้งในอันดับที่สองของทีม จากนั้นเขาก็ได้ย้ายทีมอีกครั้งไปเล่นให้กับ Empire เขาลงแข่งงานระดับไมเนอ์อีกครั้ง และจบลงด้วยการได้รับคะแนน 1.09 เรตติ้ง และช่วยให้ทีมได้อันดับสองเพื่อผ่านเข้ารอบคัดเลือก ESL One Cologne 2016 Main Qualifier ซึ่งเป็น LAN แห่งแรกนอกภูมิภาค CIS ของเขา ก่อนที่ NaVi จะเห็นฝีมือและดึงตัวเด็กหนุ่มอายุ 17 ปีไปเข้าทีมในภายหลัง

Natus Vincere สำหรับฤดูกาล 2020 เริ่มที่งาน BLAST Premier Spring Series แม้จะพ่ายแพ้ต่อ Vitality ในรอบเปิดตัว แต่ทีมจากโซน CIS ก็เอาชนะ Astralis รวมถึงแก้แค้น Complexity เพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม พวกเขาคว้าตำแหน่งในรอบชิงชนะเลิศฤดูใบไม้ผลิมาครอง

NAVI ยังคงอยู่ในลอนดอนต่อเพื่อแข่ง ICE Challenge นั่นคือจุดเริ่มต้นของผลงานอันสุดยอดในปีนี้ของ electronic โดยเขามีคะแนนเฉลี่ย 1.36 เรตติ้ง 1.55 และ 98.5 ADR ในการแข่งขันและได้อันดับสองของทีม เพื่อคว้าตำแหน่ง MVP ครั้งแรกในอาชีพของเขา แม้ว่าทีมจะแพ้รอบชิงชนะเลิศในการเจอ mousesports

ความสม่ำเสมอของเขาไม่ได้เทียบเท่ากับผู้เล่นในเจ็ดอันดับแรก ของการจัดอันดับ (69% ของแผนที่ เขามีคะแนน 1.00+ ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ) และทำให้เรตติ้งอยู่ที่ 1.14 เขาอยู่แค้ในอันดับที่ 12 เท่านั้น

อย่างไรก็ตามเขายังคงเป็นหนึ่งในดีลเลอร์สร้างความเสียหายที่ดีที่สุด (81.8 ต่อรอบสูงสุดอันดับหก) และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างผลกระทบต่อทีมตรงข้ามมากที่สุด (ผลกระทบ 1.19 เป็นอันดับที่แปด) รองลงมาต้องขอบคุณจำนวนการสังหารอันยอดเยี่ยมของเขา (0.13 ต่อรอบ , สูงสุดอันดับ 12) รวมถึงความถี่ในการฆ่ามากกว่าหนึ่งคน (18.5% ของรอบของเขา, อันดับ 11 ดีที่สุด)

Top 20 Players
4. Nikola “⁠NiKo⁠” Kovač

โคตรมือปืนตัวแบกทีมผู้เป็นตำนาน Nikola “⁠NiKo⁠” Kovač กับผลงานอันยอดเยี่ยมเสมอมาตั้งแต่เข้าวงการ CS:GO เขาไม่เคยหลุดออกจากการจัดอันดับเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในปี 2020 เขาจึงได้มาอยู่ในอันดับที่ 4 กับ Top 20 Players 2020

NiKo เริ่มเข้าสู่วงการ Counter-Strike ในปี 2010 โดยเล่นในการแข่งขันหลายรายการที่จัดขึ้นทั่วบอสเนียและเซอร์เบีย ในสองปีต่อมาเขามีโอกาสได้เห็นถึงโอกาสในการจะเป็นมือปืนที่ดีที่สุดในภูมิภาค เขาเข้าร่วมการแข่งขัน Adepto BH Open 2011 ในซาราเยโวและ DreamHack Bucharest 2012 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีม eu4ia และ iNation

ในทั้งสองทัวร์นาเมนต์ทีมของ NiKo ไม่สามารถผ่านรอบก่อนรองชนะเลิศได้ หลังจากการพ่ายแพ้อย่างหนักถึงสองครั้งให้กับทีม fnatic ที่ช่วงนั้นถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของพวกเขากับ CS 1.6 และ Source ส่วนหลังจากนั้น NiKo ได้เปลี่ยนทีมไปเล่นกับ iNation พวกเขาได้เพิ่มผู้เล่นมากประสบการณ์อีกสองคนเข้าทีมคือ Janko “⁠YNk⁠” Paunović และ Nemanja “⁠k1Ng0r⁠” Bošković

แต่ทีมต้องล้มเหลวในการเข้ารอบตัดเชือกที่ Mad Catz Vienna และ DreamHack Bucharest พวกเขาต้องเจอกับของแข็งในตอนนั้น เช่น VeryGames และ LDLC ที่ครองการแข่งขันระดับภูมิภาคแบบครบวงจร

แต่ปีที่ถือว่าเป็นปีที่สุดยอดของเขาคงหนีไม่พ้น ปี 2017 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับ NiKo ผู้ซึ่งออกจาก mousesports เพียงสองเดือนหลังจบฤดูกาล แต่ไม่ได้อำลาทีมอย่างเหมาะสม ในขณะที่เขาได้คะแนนเฉลี่ย 1.48 ที่ DreamHack Masters Las Vegas ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเขา ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเล่นกับ FaZe เขากลายเป็นผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ของทีม ในการแข่งขัน StarSeries ซีซั่น 3 เขาได้เป็น MVP รายการนั้นหลังมาอยู่กับ FaZe ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามแผน

สิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อหลังจากนั้นก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาแพ้ 0-3 ในเวทีการแข่งขันที่ PGL Major Krakow ทำให้ FaZe กดปุ่มรีเซ็ตและนำ Ladislav “⁠GuardiaN⁠” Kovács รวมถึง Olof “⁠olofmeister⁠” Kajbjer เข้ามาแทนที่ Aleksi “⁠allu⁠” Jalli และ Fabien “⁠kioShiMa⁠” Fiey จากการเปลี่ยนแปลงทำให้ทีมคว้าแชมป์เพิ่มอีก 3 รายการในปีนั้น

ได้แก่ ESL One New York, ELEAGUE Premier และ ECS Season 4 Finals – โดย NiKo จบอันดับสองเป็นรอง Marcelo “⁠coldzera⁠” David ใน 20 อันดับผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี

FaZe เริ่มต้นปี 2020 ด้วยความสำเร็จที่ BLAST Premier Spring Series ตัวของ NiKo ติดอันดับการเป็นผู้นำในห้าหมวดหมู่สถิติรวมถึงเรตติ้ง (1.49) แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับความล้มเหล้วเพราะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ และในการแข่งขัน IEM Katowice ก็เช่นกัน พวกเขาแพ้ในรอบแบ่งกลุ่มหลังจากต้องเจอกับ Natus Vincere

NiKo เริ่มไม่มีกำลังใจในการอยู่ทีมนี้อีกต่อไป หลังจากนั้นไม่นานได้มีรายงานของการย้าย NiKo ไปยัง G2 ก่อนย้ายออกจากทีม FaZe เขาได้ฝากผลงานไว้กับการแข่งขันสุดท้าย IEM New York ซึ่งพวกเขาชนะเข้ารอบได้อย่างไม่น่าเชื่อ

พวกเขาตบทั้ง Vitality และ OG ในรอบตัดเชือก NiKo ซึ่งอยู่ในอันดับต้นๆ ของสกอร์บอร์ดในรอบชิงชนะเลิศสามแมพ (เรต 1.24 และ 85.5 ADR) ทำให้เขาคว้า MVP มาครองอีกครั้ง หลังจากสร้างตัวเลขที่สูงที่สุดในปีนี้รวมถึงเรต 1.28, อันดับผลกระทบ 1.38 และ 74.9% KAST

พูดง่ายๆ ก็คือ NiKo เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในปี 2020 และเป็นผู้เล่นที่มีผลงานมากที่สุด เขาเป็นผู้ที่โดเด่นในทัวร์นาเมนต์ที่มีการแข่งขันสูงที่สุด และต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ยากที่สุด เขาสร้างความเสียหาย 86.5 ต่อรอบโดยรวมสูงสุด นั่นน่าประทับใจเป็นพิเศษตามด้วย KPR สูงสุดอันดับสาม (0.78) และอันดับผลกระทบที่ทำได้ (1.29) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความสามารถที่โดดเด่นของเขาในการเปิดรอบ (0.15 การสังหารการเปิด ต่อรอบ, อันดับสามที่ดีที่สุด)

และการฆ่ามากกว่าหนึ่งคน (19.5% ของรอบ, สูงสุดอันดับสี่) ทั้งหมดนี้มีส่วนทำให้เรตติ้ง 1.19 ของเขาในปีนี้สูงเป็นอันดับสี่โดยรวม แต่สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้นก็คือตัวเลขของเขาดีขึ้น เมื่อเขาเผชิญกับการต้อสู้สุดกดดัน เขาจะมีผลงานที่สุดยอกมากๆ เขาได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับสามเมื่อมองดูการแข่งขันสำหรับ 10 ทีมแรก ( 1.20) รวมถึงอันดับสามสูงสุดเมื่อเทียบกับทีมห้าอันดับแรก (1.24)

Top 20 Players
3. Nicolai “⁠device⁠” Reedtz

คงไม่มีใครที่ติดตามวงการ CS:GO ไม่รู้จักชายหนุ่มมือ AWPer คนนี้ Nicolai “⁠device⁠” Reedtz กับการคว้ารางวัลส่วนตัว และรางวัลชิงแชมป์มากมายที่เขาได้รับกับ Astralis ความสำเร็จที่เขาทำได้ รวมถึงฝีมือที่ไม่เคยดรอปลงเลยทำให้เขาอยู่ในอันดับที่ 3 กับ Top 20 Players 2020

เส้นทางสู่การเป็น “Mr. Consistent” ในวงการ CS:GO นั้นยาวนานและยากลำบากสำหรับเขาที่เริ่มต้นตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นในเกมเวอร์ชันก่อนหน้านี้ เขาประสบการณ์กับการแข่ง LAN ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2009 เมื่อเขาได้เข้าการแข่งขัน CS:Source ในท้องถิ่นเมื่ออายุ 13 ปี

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดของเดนมาร์กได้ในปีสุดท้าย โดร่วมทีมกับ Henrik “⁠FeTiSh⁠” Christensen ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะก้าวไปสู่ ​​Global Offensive ในช่วงต้นอาชีพของเขานั้น ไม่สามารถอยู่ในทีมไหนได้นาน ทั้งการก้าวลงจากตำแหน่งหรือถูกเตะออกจากทีมส่วนใหญ่เกิดจากการขาดแรงจูงใจ

FeTiSh เพื่อนร่วมทีมของเขากล่าวไว้ว่าเขา “ใช้ศักยภาพของเขาได้อย่างสูญเปล่า” ในปี 2012 ทั้งสองได้กลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้งใน CS:GO กับทีม CPH Wolves แต่ก็อย่างที่ FeTiSh กล่าว ตัวของ device ยังขาดความกระตือรือร้นจนทำให้ทีมต้องจับเขาไปนั่งสำรองจนถึงตอนช่วงท้ายของปี 2013 ในที่สุดเขาก็มีความมั่นใจและกลับมาสู่ทีม CPH Wolves อีกครั้ง

ซึ่งหลังจากนั้นทำให้เขาได้มาเจอกับ Andreas “⁠Xyp9x⁠” Højsleth และ Peter “⁠dupreeh⁠” Rasmussen ทั้งสามคน ยังคงเป็นเพื่อนร่วมทีมด้วยกันจนถึงทุกวันนี้กับทีม Astralis นั่นเป็นเวลากว่าแปดปีมาแล้ว ที่พวกเขาเดินทางด้วยกันจนมาถึงปัจจุบันกับการสร้างตำนานโคตรทีมที่ดีสุดในโลกตลอดกาล

ความสามารถของเขาคงเส้นคงวาเป็นอย่างมาก นั่นทำให้เขาอยู่เหนือผู้เล่นทุกคนในอันดับที่ต่ำกว่า แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่เคยก้าวไปสูงกว่านี้ เรตติ้ง 1.20 ที่เขาทำได้และสถิติอื่น ๆ ของเขาส่วนใหญ่แสดงให้เห็นถึงปีที่ยอดเยี่ยมของเขา

เขาเป็นผู้เล่นที่มีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสาม และเป็นอันดับที่ห้าสำหรับการสังหารต่อรอบ (0.77) การสังหารครั้งแรก (0.14 ต่อรอบ) และการสังหารหลายครั้ง (19.5% ของรอบของเขา) ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีอัตราการตายที่ต่ำมาก (0.62 ต่อรอบอันดับที่ 11) จากสถิติด่านล่างแสดงให้เห็นว่าในทุกการแข่งขันของปี เขาไม่มีคะแนนเริตติ้งติดลบเลยแม้แต่ครั้งเดียว

Top 20 Players
2. Aleksandr “⁠s1mple⁠” Kostyliev

ผลงานที่ไม่มีใครเทียบได้และความสม่ำเสมอที่น่าทึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่มีการแข่งขันสูงที่สุดแห่งปี กับการยิงหูดับตับไหม้ทั้ง AWP และปืนไรเฟิล การแบกทีม NaVi จนสามารถจบในอันดับ 3 ของโลกปัจจุบัน Aleksandr “⁠s1mple⁠” Kostyliev ก็ได้ครองอันดับที่ 2 ในการจัดอันดับผู้เล่น 20 อันดับแรกของปี 2020

s1mple เข้าปรากฏสู่สายตาของสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 2014 ด้วยการเล่นกับทีม Courage ซึ่งเป็นทีมภายใต้การนำของ Andrey “⁠B1ad3⁠” Gorodenskiy ยังมีชื่อที่คุ้นเคยอีกชื่อคือ Georgi “⁠WorldEdit⁠” Yaskin ในตอนนั้นเด็กหนุ่มอายุ 16 ปี ไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมด้วยซ้ำ แต่การเล่นที่น่าประทับใจบางอย่าง ทำให้เขาได้รับข้อเสนอจากหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของภูมิภาค CIS ในเวลานั้นก็คือ HellRaisers นั่นเอง

ซึ่ง s1mple ก็ได้เล่นในงาน LAN อันยิ่งใหญ่หลายรายการ รวมถึง DreamHack Winter 2014 Major ในช่วงปลายปี ฝีมือของเขานั้นพัฒนาอย่างน่ากลัวในทุกๆ การแข่งขัน แต่ปัญหาด้านบุคลิกภาพยังคงหลอกหลอน s1mple อยู่ตลอดเวลา แม้จะมีปัญหาด้านทัศนคติ แต่ความสามารถอันน่าทึ่งของ s1mple ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกดึงไปอยู่กับทีม Liquid

และลงเอยด้วยการย้ายไปต่างประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ในช่วงต้นปี 2016 เขายังคงโชว์ผลงานได้อย่างโหดเหี้ยมตลอดระยะเวลาที่อยู่กับทีม Liquid แต่ปัญหาเดิมยังมีผลกับเขาเช่นเคย นั่นคือการควบคุมอารมณ์ของเขานั้นค่อนข้างจะบกพร่อง เพื่อนร่วมทีมเริ่มทนกับเขาไม่ไหว ถึงฝีมือของเขามันจะสุดยอดแค่ไหนก็ตาม จนในที่สุดเขาได้ถูกจับเซ็นสัญญาโดย Natus Vincere จนมาถึงปัจจุบัน

NaVi หลังจากดึงมือ AWP อย่าง GuardiaN กลับในมาวัย 29 ปี และทีมยังนำ Ilya “⁠Perfecto⁠” Zalutskiy จาก Syman เข้ามาอีกหนึ่งคน บัญชีรายชื่อใหม่เข้ากันเกือบจะในทันทีหลังจากเปิดตัวใน ICE Challenge เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่ง NAVI ได้อันดับสองในการแข่งขัน ตามที่คาดการณ์ไว้

ซึ่งเป็นครั้งเดียวในปี 2020 ที่ s1mple มีประสิทธิภาพในการเล่นดีกว่าเพื่อนร่วมทีมอย่าง electronic ทีมยังคงอยู่ในเมืองหลวงของอังกฤษต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์ และชนะรอบแบ่งกลุ่มที่มี Astralis, Vitality และ Complexity ใน BLAST Premier Spring Series และกดเรตติ้งรวมไปถึง 1.47

อย่างที่หลายๆ คนคาดการไว้ นี่คือการชิงที่ 1 ระหว่าง s1mple และ ZywOo โดยสถิตินั้นใกล้กันมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในอันดับที่มีฝีมือใกล้เคียงที่สุด ในประวัติศาสตร์ของการจัดอันดับ 20 อันดับแรก ซูเปอร์สตาร์ชาวยูเครนคนนี้ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในช่วงเริ่มต้นปี เขายังคงแสดงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ในปี 2020 ในขณะที่เขาทำแต้มฆ่าได้มากที่สุดต่อรอบเป็นปีที่ห้าติดต่อกันโดย 0.86 KPR เป็นค่าเฉลี่ยที่สูงเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของการจัดอันดับ

ดาเมจ 1.37 ที่เขาทำได้ในปีนี้ของเขาสูงเป็นอันดับสอง แต่เขาทำได้ดีที่สุดในการฆ่ามากกว่าหนึ่งคน (23.3% ของรอบของเขา) และประสบความสำเร็จมากที่สุดในการชนะการดวลนัดเปิด (อัตราการชนะ 65%)

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังโดดเด่นในด้านอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยการสร้างความเสียหายมากที่สุดเป็นอันดับสามต่อรอบ (85.5) แสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องที่น่าทึ่งกับสถิติ KAST ที่สูงที่สุดเป็นอันดับห้า (73.8%) การเล่น AWP สังหารต่อรอบ (0.38) เสียชีวิตโดยเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นอันดับ 7 (0.61)

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ได้รับการจัดอันดับสูงสุดของปี (1.30) ซึ่งเป็นมาตรฐานของ s1mple ที่สามารถรักษาไว้ได้ในการแข่งขันที่มีความกดดันสูงสุดของปี เขายังได้รับการจัดอันดับที่ 1 ด้วยคะแนนเฉลี่ยเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วอีกด้วย

Top 20 Players

No.1 Mathieu “⁠ZywOo⁠” Herbaut

ที่สุดแห่งโปรเพลเยอร์ ที่สุดแห่งสถิติเกือบทุกด้าน และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเด็กปีศาจ Mathieu “⁠ZywOo⁠” Herbaut แห่ง Vitality ผู้ได้อันดับ 1 ของโลก 2 ปีซ้อน! กับ Top 20 Players 2020

ZywOo มีความสุขจนถึงที่สุด ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ชื่อของเขาเริ่มมีคนพูดถึง ในฐานะมือโปรที่มีศักยภาพในช่วงต้นปี 2017 เมื่อเขาปรากฏตัวในงาน E-Corp ย้อนหลังไปเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2016 เขาเล่นให้กับทีมแบบผสมที่ในรอบคัดเลือกแบบเปิด สำหรับลีกพัฒนาของ ECS ซีซั่น 2 ควบคู่ไปกับผู้นำในเกม G2 คนปัจจุบัน Nemanja “⁠nexa⁠” Isaković

ZywOo ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนๆ จำนวนมากรวมถึงเพื่อนร่วมทีมคนปัจจุบันของเขา Richard “⁠shox⁠” Papillon ซึ่งกล่าวเมื่อเดือนเมษายน 2017 ว่าเขาชอบดาวรุ่งคนนี้ “มาก ๆ” และเขาเห็น “การเคลื่อนไหวบางอย่างในตัวเขาที่โคตรจะพิเศษ” ในเดือนตุลาคม 2018 เมื่อ ZywOo ได้รับการเปิดตัวโดย Vitality หนึ่งในองค์กรกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส

พร้อมกับเพื่อนรวมทีมจอมเก๋า 4 คน และสามคนในนั้นเคยเป็นแชมป์เมเจอร์มาก่อน น้ำหนักของความคาดหวังไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนในปัจจุบัน Vitality ต้องหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาต่อสู้ในงาน LAN ระดับนานาชาติครั้งแรกที่ DreamHack Open Atlanta 2018 ซึ่งเขาได้คะแนน 1.40 ในขณะที่ทีมเอาชนะ Complexity, Ghost และ Luminosity ได้อย่างง่ายดาย

คงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงว่าใคร จะมีปีเปิดตัวที่ดีกว่าปีที่ ZywOo เปิดตัวในปี 2019 หลังจากการเริ่มต้นที่ค่อนข้างช้า นักแม่นปืนอัจฉริยะชาวฝรั่งเศสก็ก้าวขึ้นมาและเริ่มแสดงความสามารถของเขาในงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาได้รับเหรียญ MVP 5 เหรียญและเป็นสัญญาณแห่งความสม่ำเสมอในปีที่ทีม Vitality มีฟอร์มขึ้นและลง

โดยติดอันดับชาร์ตสำหรับเรตติ้งของเขาคือ (1.30) รวมถึงอันดับเพลย์ออฟงานใหญ่ (1.33) ผลกระทบที่ทำกับทีมตรงข้ามอยู่ที่ (1.40) ADR (86.1) และ KDD (955)

เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นครั้งแรกใน HLTV Top 20 อีกด้วย ⁠เหนือกว่าทั้ง coldzera และ ⁠s1mple⁠ สองผู้เล่นที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกก่อนหน้านี้

เช่นเดียวกับในปี 2019 Vitality เริ่มต้นปีด้วยความสั่นคลอน เมื่อพวกเขาจบอันดับสามของกลุ่มใน BLAST Premier Spring Series โดยแพ้ Complexity และ Natus Vincere หลังจากเอาชนะยักษ์ใหญ่ CIS ในนัดแรกที่ลอนดอนโดย ZywOo เป็นคนเดียว สำหรับผู้เล่นในทีมที่มีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของการแข่งขัน (1.17)

เมื่อปีนี้สิ้นสุดลง การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งทีมที่ดีที่สุดของปี 2020 ก็เปิดกว้างขึ้น Vitality ดูเหมือนจะเป็นทีมเต็งที่ชัดเจนในการแข่งขัน IEM Global Challenge แต่พวกเขาไม่สามารถก้าวพ้นจากรอบแบ่งกลุ่มได้ หลังจากแพ้ให้กับ BIG และแชมป์อย่าง Astralis ในที่สุด ZywOo ได้ตำแหน่ง EVP ไป แม้ว่าจะมีการโพสต์สถิติที่สูงในปีนี้รวมถึงเรตติ้ง 1.40 ADR 93.5 และ KAST 79.2%

ZywOo ขยับขึ้นเหนือ s1mple ในการแข่งขันที่ใกล้ที่สุดสำหรับการแย่งตำแหน่งที่ 1 ในประวัติศาสตร์ของ HLTV Top 20 ด้วยการเป็นผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการแข่งขันที่มีความกดดันสูงสุด และในแมตช์ที่ใหญ่ที่สุด เขาอยู่ในอันดับที่สองสำหรับเรตติ้ง (1.29) ดาเมจต่อรอบ (85.8) และสังหารต่อรอบ (0.81)

ในขณะที่ KAST 74.8% ของเขาเป็นอันดับสามโดยรวม เขานำหน้าบรรดา Top 10 เล็กน้อยในแง่ของคะแนนผลกระทบ (1.38) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสามารถในการฆ่าหลายคน (21.3% ของรอบของเขาซึ่งเป็นอันดับสองที่ดีที่สุด) และเนื่องจากมีจำนวนการสังหารที่สูง (0.15 ต่อรอบสูงสุดเป็นอันดับสี่) และเอาตัวรอดต่อรอบ (88 1vsX สถานการณ์ชนะสูงสุด)

Top 20 Players

และนี่คือ Top 20 Players ที่ดีที่สุดในปี 2020 อันดับที่ 10-1 ยินดีด้วยกับกับ ZywOo เด็กอัจฉริยะที่ได้ No.1 ไปครอง 2 ปีติด จากสถิติที่เห็น นี่มันไม่ใช่คนชัดๆ ทุกการแข่งขันเขาคืออันดับหนึ่งของทีม และเขาคือความน่ากลัวของคู่ต่อสู้อย่างแท้จริงเลยกว่าได้

แต่ก็ถือว่าแข่งกับ s1mple ในโค้งสุดท้ายของปีได้อย่างสูสีที่สุดแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง : Top 20 Players! แห่งวงการ CS:GO ปี 2020 อันดับ 20-11

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *