ผู้เล่นชาวเบลเยียมเปิดใจ เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับทีมใหม่ เพราะในตอนนี้เขาได้ชื่อว่า Vitality Nivera เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเขาได้พูดคุยถึงตำแหน่งของเขาในทีม ก่อนการแข่งขัน BLAST Premier Fall Finals กับต้นสังกัดทีมสัญชาติฝรั่งเศส
เราได้นั่งคุยกับ Nabil “Nivera” Benrlitom เพื่อพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับการเดินทางของเขา ตั้งแต่เข้าร่วม Vitality ในเดือนตุลาคม รวมถึงการตัดสินใจรับหน้าที่ เป็นผู้ที่เล่นได้เพียงสองแผนเท่านั้น จากการเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ในบัญชีรายชื่อ
ขวัญกำลังใจของทีมมีเพิ่มมากขึ้น หลังจากชนะ IEM Beijing-Haidian ทีมของพวกเขากำลังมุ่งหน้าสู่ช่วงสุดท้ายของปีอย่างสวยงาม Vitality เพิ่งได้รับตำแหน่งแรกในปี 2020 หลังจากที่คว้าอันดับที่สองมาได้ 4 ครั้ง ทีมได้รับการตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า จะต้องพยายามรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ในการจัดอันดับโลกไว้ให้ได้ พวกเขาต้องมุ่งหน้าต่อไปยังสองกิจกรรมสุดท้ายของปี โดยเริ่มจาก BLAST Premier Fall Finals พวกเขาชนะเลิศเท่านั้น นั่นคือคำตอบ ถ้าพวกเขายังอยากครองแชมป์อันดับ 1 ของโลก
Nivera มีความสุขกับบทบาทปัจจุบันของเขากับ Vitality ในฐานะเป็นคนที่จะเข้ามาเสริมการเล่นของ Dust2 และ Inferno เขาพูดถึงวิธีการแบบค่อยเป็นค่อยไป ในการเล่นรวมเข้ากับทีม ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่มันก็ทำให้เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
มันเปิดทำให้ให้เขานั้น มีผลกระทบต่อจิตใจของเขาเอง เด็กหนุ่มอายุ 19 ปี ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่น อาจถูกรบกวนการทำงานทางการกระทำ หรือทางจิตใจ จากการจัดเตรียมแผนของโค้ชหรือของใครก็ตาม ที่มันจะมีผลตามมากับพวกเขาในภายหลังนั้น มันไม่มีผลกับผม เพราะผมบอกกับทุกคนในทีมเอาไว้แล้วว่า “ตราบใดที่เราชนะ นั่นคือทั้งหมดที่สำคัญสำหรับผม ผมจะเป็นยังไงพวกคุณไม่ต้องสนหรอก”
บทสัมภาษณ์ของ hltv.org
คุณอยู่ใน Vitality มาสองเดือนแล้ว ยังคงมีอะไรต้องปรับให้เข้ากับทีมอยู่หรือไม่?
เมื่อผมเข้าร่วมทีม พวกเขาไม่ต้องการให้ผมเรียนรู้มากเกินไป ดังนั้น XTQZZZ จึงเสนอให้ผมเล่นสองสามแผนที่ เพื่อให้ผมรู้สึกสบายใจมากขึ้น นี่เป็นข้อเสนอที่ผมสามารถปฏิเสธได้ แต่ผมคิดว่ามันน่าสนใจดี ผมน่าจะลองดูและผมก็ได้ข้อสรุปว่า การเล่นแผนที่เพียงสองสามแผนที่จะเป็นภาระงานที่น้อยลง
ดังนั้นผมจึงสามารถทุ่มเทเวลาได้มากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าเวลาเราต้องเล่นในแผนที่เหล่านั้น พวกเขาจะไว้ใจในตัวผมได้ ผมจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง เพราะผมจะทำให้ตัวเองเชี่ยวชาญแผนที่นั้นๆ แบบทุกซอกทุกมุม ความผิดพลาดจะต้องไม่เกิดขึ้น และแน่นอนกับทีมระดับ Vitality ความผิดพลาด เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยเท่าไหร่ในความคิดผม สมัยเข้าทีมมาใหม่ๆ ซึ่งมันนำมาสู่ความกดดันจนทำให้ผมแทบบ้าในภายหลัง
มันมาลงที่ Inferno และ Dust2 ได้อย่างไร?
เราตัดสินใจว่าผมจะเล่น Dust2 เพราะมันเป็นหนึ่งในแผนที่ที่ ดีที่สุดของผม และพวกเขาคิดว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปด้วยดีสำหรับทีม เมื่อผมเล่นใน Inferno พวกเขามีปัญหาใหญ่ในด้าน CT โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ AWP แม้ว่าจะมี ZywOo ก็ตาม พวกเขามีปัญหาบางอย่างกับไซต์ B ด้วย ซึ่งมีสิ่งที่ซับซ้อนอยู่และพวกต้องแก้ไขมัน ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจว่าจะให้ผมจะเล่นในบทบาทโปรดของผม นั่นคือในฐานะ AWPer หลัก และตอนนี้ผมก็เป็นส่วนหนึ่งของทั้งสามคนใน A แล้วนะ
แผนการปฏิบัติได้ผลอย่างไร? คุณซ้อมกับทีมทุกวัน หรือแค่เมื่อพวกเขาต้องการให้คุณมาซ้อมในแผนที่ของคุณ?
เมื่อผมเข้าร่วมทีม และเราตัดสินใจที่จะทำตามแผนนี้ ผมจึงได้ดูแนวทางปฏิบัติทั้งหมดของพวกเขา หลังจากนั้นไม่นานเราเห็นว่า มันไม่จำเป็นมากนักกับสิ่งนี้ เพราะผมไม่ได้เล่นแผนที่อื่นดังนั้น ถ้าเราฝึก Dust2 หรือ Inferno ผมจะไปที่นั่น แต่ถ้าไม่ ผมจะไม่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ฝีกซ้อม อย่างไรก็ตามผมพยายามอยู่ใน TeamSpeak กับทีมให้มากที่สุด เพื่อเชื่อมต่อกับทีมอยู่ตลอด
นี่เป็นคำถามที่ผมมี เกี่ยวกับตำแหน่งของคุณในทีม คุณรู้สึกว่าตัวคุณเองมีความพร้อมที่จะมาเป็นตัวจริงไหม หรือในความคิดคุณ คุณยังอยากเป็นผู้เล่นคนที่ 6 อยู่ ซึ่งมันดีอยู่แล้วในตอนนี้ใช่ไหม?
เราทุกคนพูดคุยกันบ่อยมาก ตอนที่กำลังบูทแคมป์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกเกม ดังนั้นต้องขอบคุณ ที่ทำให้ผมรู้สึกถึงการรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน นอกจากนี้ยังมีข้อเท็จจริงที่ว่า misutaaa อยู่ในทีมด้วย ซึ่งผมเล่นกับเขาด้วยในทีม Wonderkids และเขานั้นช่วยผมในหลายๆ เรื่อง เพราะผมใช้เวลาอยู่กับเขามาก และผมก็ไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้งเลยแม้แต่น้อย ส่วนในเรื่องผู้เล่นตัวจริง หรือจะเป็นผู้เล่นคนที่ 6 แบบนี้ ผมคิดว่าให้อนาคตเป็นตัวตัดสินดีกว่า
เกี่ยวกับ misutaaa คุณเห็นความคืบหน้าของฝีมือเขาตั้งแต่ Wonderkids หรือไม่?
คุณจะเห็นได้ทันทีว่าตอนนี้เขาดีขึ้นมาก ตอนที่ผมเข้าร่วม Vitality เขาทำผิดพลาดน้อยลง และเขาเข้มงวดมากขึ้น แม้ว่าแน่นอนว่าเขาต้องทำงานต่อไปอีกเยอะ เขาอายุแค่ 17 ปี แม้จะอายุน้อยกว่าผม มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคิดมากกว่า เช่นกันเมื่อคุณยังเด็กและคุณอยู่ในทีมที่ดีที่สุดในโลก มันสามารถครอบงำความคิดคุณได้
ผมดู Gambit เป็นตัวอย่างพวกเขาอายุ 18 ถึง 20 ปีทั้งหมด ยกเว้นฮอบบิท แต่พวกเขาเล่นสไตล์ที่เข้มงวด ไม่เสี่ยงโดยไม่จำเป็น และพวกเขาจริงจังกับเกม หนุ่มๆ อย่างพวกเราต้องเอาพวกเขาเป็นตัวอย่าง
misutaaa ให้คำแนะนำแก่คุณเมื่อคุณเข้าร่วมทีมเยอะหรือเปล่า หรือว่าเวลาของคุณใน Heretics มีการเตรียมการเพียงพอที่จะก้าวขึ้นไปอีกระดับหรือไม่?
ทุกคนในทีมเปิดกว้างมาก และพวกเขาให้ผมถามคำถามทั้งหมดที่ผมมีได้ตลอดเวลา ผมมีข้อสงสัยเล็กน้อยที่สามารถถามได้ พวกเขาตอบด้วยความจริงใจเสมอ ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมชาติมากและ Misutaaa ไม่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือใดๆ เลย เพราะทุกคนเปิดกว้างมากกับผมอยู่แล้ว
ผมคิดว่าการเล่นในทีมระดับ 2-3 อย่าง Heretics ช่วยให้ผมเข้าใจแนวคิดหลักบางอย่าง เกี่ยวกับการเล่นเป็นทีมและ Counter-Strike โดยทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ misutaaa ไม่มีเมื่อเขามาถึง Vitality เขาต้องเรียนรู้มากมาย และต้องใช้เวลานานแต่เขาก็ไปถึงที่นั่นได้ ไปถึงจุดที่อยู่ในระดับสูงอย่างน่าตกใจ
คุณคิดจะเล่นแผนที่เพิ่มเติมในอนาคตหรือไม่? คุณได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กับทีมหรือไม่?
พวกเขารู้ว่าผมหิวกระหายและอยากเล่น ตอนนี้มันเป็นแค่สองแผนที่ แต่ในอนาคตเราอาจจะเพิ่มได้อีก ทำไมจะไม่ล่ะ? นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการเล่นของทีมและสิ่งต่างๆ เช่นนั้น ผมรู้ว่าบางคนอาจเกลียดการเป็นผู้เล่นคนที่หกเช่นผม ผมอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันเพียงแค่เล่นสองสามแผนที่เท่านั้น แต่สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้ว ผมมักจะนึกถึงทีมก่อนเสมอในทุกทีมที่ผมได้ร่วมงานด้วย “ตราบใดที่เราชนะนั่นคือทั้งหมดที่สำคัญสำหรับผม ผมไม่สนใจว่าจะเป็นสตาร์ หรืออะไรก็ตาม ผมแค่ต้องการชนะกับทีมและส่วนที่เหลือจะเกิดขึ้นตามมาเอง”
คุณคิดว่ามันเป็นระบบที่ยั่งยืนหรือไม่? คุณเคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ LAN play กลับมา?
ใช่ผมคิดอย่างนั้นแล้ว ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเปลี่ยนการตั้งค่าทั้งหมดเพื่อแทนที่ผู้เล่น ผมรู้ว่าเราเตรียมพร้อมทางจิตใจและเราจะทำให้ดีที่สุด ทีมที่มีผู้เล่นคนที่หก มันจะเหมือนกับที่เราเล่นแบบออนไลน์ คำถามเดียวจริงๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนรูปแบบทั้งหมดคือ ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
คุณเพิ่งชนะ IEM Beijing-Haidian ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์แรกของคุณที่ชนะร่วมกับทีม ในความสามารถที่คุณแสดงออกมามันน่าประใจในความคิดคุณหรือยัง? และคุณยังเป็นทีมอันดับต้นๆ ในการจัดอันดับตอนนี้ คุณรู้สึกอยากเอาชนะมากขึ้นไปอีกหรือไม่?
เราเล่นสไตล์ Counter-Strike อย่างเข้มงวด แม้จะมีความสามารถของแต่ละคนที่สุดยอด และเราจะพยายามเล่นกันเป็นทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งให้ผลตอบแทนแก่เราแบบที่ทีมต้องการ เรายังคงหิวโหยและเรามีเป้าหมายในการเป็นทีมชั้นนำ ดังนั้นเราจะไม่ปล่อยให้ปัญหา หรือสิ่งที่จะมาขวางเราเกิดขึ้นเด็ดขาด
Vitality เล่นรอบชิงชนะเลิศหลายครั้งในปีนี้ ก่อนการคว้าแชมป์ครั้งใหญ่ และเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของโลกอย่างต่อเนื่อง คุณรู้สึกว่าคุณต้องอยู่ในระดับที่สูงจริงๆ เมื่อคุณเข้าร่วมกับทีมเพื่อไม่ให้ทีมล้มเหลว คุณต้องทำให้ดีที่สุดใช่ไหม?
ผมเพิ่งมีความคิดนี้ไม่นานนัก ผมไม่อยากจะเล่นให้ออกมาแย่ ผมอยากเล่นให้ดีที่สุดโดยเฉพาะตอนที่ผมนั่งอยู่ข้างหลังทีมของผม ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องความล้มเหลวหรือเรื่องอื่นๆ ผมแค่อยากยิง อยากเล่น ความหิวกระหายนั้นเป็นสิ่งที่ผลักดันผมจริงๆ เรื่องระดับหรือเรื่องอะไรผมไม่ค่อยสนใจ เพราะเมื่อคุณเล่นกับพวกเขาไปสักพัก เราจะเริ่มชินกับความโหดในแบบฉบับของพวกเขาเอง
ตอนนี้เป็นเวลาสองสามสัปดาห์แล้ว ที่คุณได้รับชัยชนะจาก IEM Beijing-Haidian ช่วงนี้คุณทำอะไรไปบ้าง? คุณหยุดพักสักวันไหม การเตรียมตัวของคุณเป็นอย่างไรบ้างในกิจกรรมสุดท้ายของปีนี้?
เราใช้เวลาสองสามวันในการพักผ่อนหลังจาก IEM Beijing-Haidian ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เล่นบางคนเดินทางกลับบ้าน จากนั้นเราก็กลับไปปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ซึ่งได้ผลดีสำหรับเรา เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เราทำจิตใจเข้มแข็งและตอนนี้เรามีสมาธิมากขึ้น เพราะมันเป็นการแข่งขันครั้งสุดท้ายของปี
ตอนนี้คุณกลับบ้านแล้ว คุณกำลังจะไปเข้าร่วม bootcamp สำหรับเหตุการณ์สองสามครั้งล่าสุดที่จะมาถึง หรือคุณจะเล่นจากที่บ้าน?
เรากำลังจะเล่น BLAST Premier Fall Finals จากที่บ้านของพวกเรา จากนั้นเราจะกลับมารวมตัวกันเพื่อ bootcamp สำหรับ IEM Global Challenge เนื่องจากนั่นจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของปี และเราต้องการที่จะออกไปลั่นให้เต็มที่
คุณมีคุณสมบัติสำหรับการเข้าแข่งขัน Blast Premier Global Finals แล้ว คุณรู้สึกกดดันน้อยลงสำหรับการเล่นในรอบชิงชนะเลิศฤดูใบไม้ร่วงหรือไม่?
โดยส่วนตัวแล้ว เมื่อผมรู้สึกกดดันในการแข่งขัน CS มันก็เป็นความกดดันที่ดี ความกดดันผลักดันให้คุณเก่งขึ้น มีผลงานที่ดีขึ้น ถึงแม้มันจะทำให้ผมยังติดภาพ เมื่อตอนเข้าทีมใหม่ๆ อยู่บ้าง แต่หลังจากผ่านมันมาได้ ผมรับมือกับความกดดันได้ดีทีเดียว เราผ่านเข้ารอบ Global Finals ไปแล้ว
เมื่อผมเล่นทัวร์นาเมนต์แรกกับ Vitality, BLAST Premier Fall Series และยังมีบางอย่างที่ผลักดันผมในตอนนั้นด้วย ดังนั้นแม้ว่าเราจะผ่านเข้ารอบไปแล้ว แต่เราก็จะเข้าร่วมการแข่งขันอย่างจริงจัง
คุณกำลังจะแข่งรอบรองชนะเลิศในฤดูใบไม้ร่วงกับ mousesports ผู้เข้ารอบสุดท้ายของ DreamHack Winter Masters มีการเตรียมการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่?
เรารู้จักเกมของพวกเขาไม่มากก็น้อย พวกเพื่อนร่วมทีมผมเล่นกับ mouz มาแล้วหลายครั้ง จึงไม่มีอะไรใหม่ เราจะทำตามปกติเพื่อให้แน่ใจว่า เราทุกคนมีความคิดที่ถูกต้องและไปในทิศทางเดียวกัน มันค่อนข้างเรียบง่าย เราซ้อมให้แน่น เล่นตามแผน ไม่มีอะไรพิเศษ เพราะมันพิเศษอยู่แล้ว เราสื่อสารกันเป็นทีม ทีมที่ดี การสื่อสารและความเข้าใจจะทำให้คุณได้แชมป์
หลังจากนี้ถ้าคุณผ่านไปได้ มันจะเป็น Astralis หรือ NAVI เมื่อการแข่งขันกับ mousesports เสร็จสิ้น คุณชอบเล่นกับทีมไหนมากกว่ากัน?
ทั้งสองทีมยอดเยี่ยมมาก แต่ผมชอบเล่นกับ Astralis มากกว่า ครั้งที่แล้วที่ผมเล่นกับพวกเขา ผมยังอยู่กับทีม Heretics และเราแพ้ 0-2 ถึงจะแพ้ขาด แต่เราทำได้เต็มที่แล้ว โดยส่วนตัวแล้วผมชอบที่จะแก้แค้นพวกเขา ผมอยากแก้แค้นให้ได้ มันเป็นแมตช์ที่ผมต้องตั้งใจและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะ
ไม่ว่าคู่แข่งของคุณจะเป็นใคร อะไรคือสิ่งที่ใส่ลงไปในเกมเพื่อให้ได้รับชัยชนะ?
ผมกำลังจะเล่นทัวร์นาเมนต์ส่งท้ายปี ดังนั้นทีมที่มีปีที่แย่หรือปานกลาง จะต้องพยายามอย่างเต็มที่ ในงานสุดท้ายเหล่านี้ เลเวลการแข่งขันอาจสูงกว่าในช่วงก่อนหน้านี้ของปี เราต้องการจะอยู่ในระดับท็อปของโลกต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งการรักษามาตรฐานมันยากมาก ยากยิ่งกว่าตอนไต่ขึ้นมา ผมเชื่อในเพื่อนร่วมทีมของผม พวกเขามันสุดยอด ผมเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ เป็นเพียงสิ่งที่มาเติมเต็มให้กับพวกเขา ความมั่นใจในทีมมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าเป็นเพื่อนร่วมทีมของผม มันเกิดขึ้นได้แน่นอน
นี่คือเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่มีความฝันคนหนึ่ง เขาได้ชื่อว่าเป็น Vitality Nivera ผู้เล่นคนที่ 6 ของทีม เป็นการเพิ่มบัญชีรายชื่อเข้ามาอีกหนึ่งคน เพื่อลองรูปแบบการแข่งขันว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจากบทสัมภาษณ์นี้ก็แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เขาต้องพบเจอ รวมถึงความอดทนของเขาเมื่อต้องเจอกับปัญหาต่างๆ สำหรับเด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่ชื่อว่า Nivera คนนี้
ยังมีบทสัมภาษณ์อีกหนึ่งคนรวมอยู่ด้วย เพราะนี่คือการสัมภาษณ์ร่วม เขาก็คือ Chairman ประจำทีมอย่าง Fabien “Neo” Devide ได้เปิดเผยข้อมูลและเรื่องราว ว่าพวกเขานั้นมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร
Fabien“ Neo” Devide ใช้เวลาพอสมควรเพื่อพูดคุยกับ HLTV.org เกี่ยวกับทุกสิ่งของเขากับ Vitality
องค์กรประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า Mathieu “ZywOo” Herbaut นักแม่นปืนดาวรุ่งวัย 20 ปี ของพวกเขาจะยังคงอยู่ภายใต้สัญญากับองค์กรของฝรั่งเศส จนถึงปี 2024 หลังจากเซ็นสัญญาขยายระยะเวลาเป็น 5 ปี ในช่วงต้นปี 2020 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศสุดยิ่งใหญ่ องค์กรที่ตั้งอยู่ในปารีสได้ฉายภาพโฮโลแกรมรอบๆ สถานที่ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดของเมืองรวมถึง Panthéon, Trocadéro, Montmartre และรวมถึงบริเวณใกล้เคียงของ Arc de Triomphe
“เป็นการขยายสัญญาสี่ปีที่พวกเราภูมิใจ ซึ่งใช้เวลาหกเดือนในการเจรจากับตัวแทนของเขา” Fabien “Neo” Devide ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งของ Vitality กล่าว
“มันเป็นธรรมชาติมาก เพราะพวกเขามีความสุขกับโครงการของเรา และเรามีความสุขมากที่มีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกอยู่ในทีม ผมจะไม่บ่นเกี่ยวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ผ่านมา เราทุกคนอยู่ในหน้าเดียวกัน” เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงรู้สึกเช่นนั้น Neo พาเราออกเดินทางจากจุดเริ่มต้นของทีมไปยังจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบัน และจุดที่สามารถมุ่งหน้าไปได้ เพื่อแบ่งปันความคิดของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของคนทำงานเบื้องหลัง
Vitality ซึ่งเป็นองค์กรของฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ได้ก้าวไปสู่ระดับโลกพร้อมกับทีม และผู้เล่นจากทั่วโลกในหลาย ๆ เกม โดยยึดติดกับรากฐานของ Esports อย่างเหนียวแน่น พวกเขาเปิดตัวแผนก Counter-Strike ในปี 2018 โดยสร้างรายชื่อผู้เล่นตัวจริงร่วมกับ Dan “apEX “Madesclaire, Cédric” RpK “Guipouy, Nathan” NBK- “Schmitt, Vincent” Happy “Schopenhauer และดาวรุ่งอายุ 18 ปี ZywOo
“เรายึดภาษาฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลาง เป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของเรา” Neo อธิบายโดยนึกถึงวันแรกๆ ของการทำทีมขององค์กรในเกม Counter-Strike “รากเหง้าของเราคือภาษาฝรั่งเศส และเราภูมิใจในเรื่องนี้มาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาเพราะเราต้องการก้าวไปในทิศทางนั้นต่อไป บางทีเราอาจเป็นทีมระดับท็อปเพียงทีมเดียว ที่ยังคงเชื่อมั่นใน CS ของฝรั่งเศส”
“เมื่อตอนเราเริ่มต้นในปี 2018 เพราะแม้ว่า G2 จะมีโครงการภาษาฝรั่งเศสเหมือนกัน แต่การทำทีมของเรามันคนละรูปแบบ G2 มักจะแรงตอนต้นแต่แผ่วปลายเสมอ เมื่อไปถึงรอบที่ชี้ความเป็นความตาย พวกเขายังทำได้ไม่ดีพอ”
ดังนั้นเราจึงเห็นว่า มันเป็นสะพานที่น่ากระโดดเข้ามา มันน่าลองและน่าหลงใหล เพราะกว่าพวกเราจะเป็นตำนานของวงการ และกว่าจะเป็นที่ยอมรับในฝรั่งเศส พวกเราผ่านอะไรมามาก การเซ็นสัญญาจะเป็นการดีที่สุด ที่จะซื้อใจผู้เล่นของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะดึงดูดผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ต้องการเข้าร่วมกับทีมชื่อใหญ่ และผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมหลายๆ คน ดังนั้น apEX จึงมาที่ปารีสเพื่อเข้ามาอยู่กับเรา และเขาทำมันได้ดีมาตลอด
ตอนนั้นเป็นเวลาสองเดือน เขาใกล้จะเซ็นสัญญากับ mouz แต่เขาก็เลือกเรา เราก็ได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส ผมบอกเขาว่าผมไม่เชื่อในคนรุ่นเก่าเช่นรุ่นของผม ผมพูดว่า “ผมคิดว่าคนพวกนั้นนิสัยเสีย พวกเขาควบคุมเด็กรุ่นใหม่มากเกินไป และผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่ประสบความสำเร็จ”
เขาเห็นด้วยกับผม และเราคุยกันถึงเงื่อนไขของเขาว่า เขายังหิวกระหายที่จะแข่งขัน เราคุยกันว่าจะชนะได้อย่างไร แต่เขาไม่ต้องการสร้างโครงการทั้งหมดเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเราควรพยายามโน้มน้าว NBK- มาเข้าทีมด้วย
“Envy เปิดตัว Happy และ RpK ในช่วงเวลาเดียวกัน เราต้องเจรจากับลุงคาร์ลอส [ซีอีโอของ G2] สำหรับ apEX และ NBK- แม้ว่า NBK- จะกำลังหาตัวเลือกของทีมอื่นๆ อยู่ด้วย”
“เขานั้นยังต้องการเล่นในโครงการอื่นของฝรั่งเศส เพราะเขาเบื่อหน่ายกับการเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นและการมีปัญหาของผู้เล่นภายในทีม มันค่อนข้างยาก แต่ apEX อยากเล่นกับ ZywOo และ NBK- ซึ่งทั้ง 2 คน ก็อยากเล่นร่วมกับเขาเช่นกัน ผมมีหน้าที่เตรียมสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด”
“เพื่อที่การพัฒนาของผู้เล่นจะได้ไปในแนวทางเดียวกัน ZywOo ยังเด็ก เราจึงต้องนำผู้เล่นที่มีประสบการณ์เข้าสู่ทีม เพื่อสอนในสิ่งต่างๆ ให้กับเขา และในที่สุดจนมาถึงวันนี้ เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว”
การมาถึงของ ZywOo
ก่อนที่จะเข้าร่วม Vitality และการกลายเป็นหัวใจสำคัญของทีม ZywOo ในขณะนั้นต้องเรียนในระดับประกาศนียบัตรมัธยมปลายให้จบก่อน มันคือสิ่งซึ่งจำเป็นต้องมีเพื่อก้าวไปสู่วงการ eSports ครอบครัวของเขาตั้งข้อกำหนดไว้ ก่อนที่พวกเขาจะปล่อยให้ เซ็นสัญญาเป็นมืออาชีพ คือการที่เขานั้นต้องเรียนให้จบตามที่ครอบครัวกำหนดไว้ให้ได้
ZywOo คือเรื่องแรกในซีรีส์ของ HLTV เกี่ยวกับความสามารถของเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง นี่คือเรื่องหนึ่งสำหรับอนาคต Neo นึกถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จากตอนที่ทั้งสองคุยกันเป็นครั้งแรก และเด็กหนุ่มไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรเมื่อถูกถามเกี่ยวกับความคาดหวังด้านเงินเดือนซึ่ง Neo เรียกมันว่า
“คำตอบแบบคลาสสิกของ ZywOo” ZywOo กล่าวว่า “ถ้าคุณให้ผม 1,500 € หรือ 2,000 € ผมจะมีความสุขมากกว่านี้ นั่นจะเป็นเงินที่บ้ามาก และมากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้” ซึ่ง Neo ตอบว่า “ตกลงผมไม่คิดว่าจะจ่ายให้คุณได้ เพราะมันต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ”
ZywOo เป็นมือใหม่ในเวลานั้น แต่ทีมงานรู้ว่าพวกเขามีอะไรพิเศษอยู่ในมือของพวกเขา หลังจากฝึกซ้อมหลายวัน สำหรับ Neo เงินเดือนระดับเริ่มต้นอาจจะไม่เพียงพอสำหรับเด็กคนนี้ “เราจึงยื่นข้อเสนอเริ่มต้นที่มากกว่าสิ่งที่เขาขอ และเราเสริมว่าถ้าเขาทำผลงานได้ดีในช่วงหลายเดือนแรก เราจะจ่ายเงินให้เขาเหมือนกับคนอื่นๆ”
“เขาตื่นเต้นมาก แม่ของเขาตื่นเต้นมาก และเราเพิ่งรู้ว่าเราไม่ได้จ่ายเงินให้เขามากเกินไปเลย เรารู้ว่าเขามีศักยภาพที่จะเป็นอัจฉริยะ ดังนั้นเราจึงต้องการให้แน่ใจว่าเขามีความสุขและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ผมคิดถึงช่วงเวลานั้น เขาขี้อายและสุภาพมาก ในระหว่างการโทรคุยกันที่เรามี นั่นก็คือ ZywOo โดยพื้นฐานแล้ว เขาแค่อยากเล่นเกม เก็บชัยชนะจากคู่แข่งและเขาทำงานด้วยง่ายมาก เขามาพร้อมพรสวรรค์อย่างแท้จริง”
ZywOo ไม่เพียงแต่เล่นได้เหมือนกับคนอื่นๆ ในทีมเท่านั้น แต่เขายังกลายเป็นที่ฮือฮาในทันที โดยเมื่อเทียบเคียงกับผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกในตอนนั้น ขณะที่เขาพาทีมคว้าชัยชนะใน LAN ระดับนานาชาติถึงสามครั้ง และขณะที่เขาทำผลงานจนได้ MVP ห้าครั้งในปี 2019 ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก
ผมไม่กล้าพูดว่าความสามารถของเขามากกว่า Aleksandr “s1mple” Kostyliev และ Nicolai “device” Reedtz แต่การขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสตาร์ชาวฝรั่งเศสคนนี้ หลังจากนั้นเริ่มมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา “ตอนนี้เขาเริ่มตระหนักถึงสิ่งต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ HLTV เลือกให้เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก” Neo กล่าว
“เขามีความกดดันเพิ่มขึ้นเป็นเวลาหนึ่งหรือสองเดือน เนื่องจากการเปิดรับสื่อและความรู้สึกที่เขาแบกไว้บนไหล่ของเขามันเริ่มมีมากขึ้น เราพยายามปกป้องเขามากเกินไปในปีแรก และเราอาจทำผิดพลาดในเรื่องนั้น”
แต่เราพยายามป้องกันเรื่องไม่ดีที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ เพราะเมื่อเขามีความสุขอยู่ตลอดเวลา การเล่นของเขาจะมีผลงานออกมาดีมากๆ เขาคือสัตว์ร้ายของพวกเรา “ปีที่แล้วเขาไม่สามารถเปรียบเทียบสถิติของตัวเขาเองได้เลย เพราะมันเป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด เขากำลังค้นพบทุกสิ่ง เขาต้องการปีนี้เพื่อยืนยันว่า เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและอาจจะดีที่สุดในโลก เขาได้รับแรงกดดันจากแฟนๆ จากสื่อต่างๆ แต่นั่นแหละคือบทพิสูจน์ความสามารถที่แท้จริง
ตอนนี้เขาเอาชนะมันได้แล้ว ผมคิดว่าเขากำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง เขาต้องเผชิญกับวิกฤตเล็กน้อยในบางครั้ง แต่เขาก็สามารถเอาชนะได้ทุกครั้ง
ผมภูมิใจในตัวเด็กคนนี้มาก ผมเคารพผู้เล่นอย่างเขาและ s1mple มากเพราะพวกเขานั้น “ไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่มีสัญชาตญาณและฝีมือระดับเทพ แต่พวกเขายังสามารถเผชิญกับความกดดันได้อีกด้วย มันน่าทึ่งมากที่พวกเขาสามารถแข่งขันในระดับสูงสุดอย่างสม่ำเสมอ พวกเขาอยู่ในจุดที่ผู้เล่นทุกคนไม่อาจเอื้อมถึง มันน่าทึ่งมากๆ”
แม้จะมีการต่อสู้ที่หนักหน่วง และช่วงฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ แต่ Vitality ก็ยังคงสามารถแข่งขันได้ถึงสองรอบชิงชนะเลิศ ก่อนช่วงพักฤดูร้อนและอีกสองรอบหลังจากนั้น แต่ในที่สุดก็ถึงสิ้นปีที่มีเด็กอีกคนเข้ามาในบัญชีรายชื่อนั่นคือ Nabil “Nivera” Benrlitom และเป็นผู้บุกเบิกระบบหมุนเวียนผู้เล่นแบบ 6 คน และทำให้ทีมจากฝรั่งเศสสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาได้ (IEM Beijing-Haidian และ BLAST Premier Fall Finals)
ผมภูมิใจในทีมของผม และเราจะไม่หยุดพัฒนา เราคือทีมที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก เรามีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก จำพวกเราไว้ให้ดี พวกเราคือ Vitality
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : coldzera พร้อมเซ็นสัญญาเป็น IGL หลักประจำทีม หลังการจากไปของ NiKo
