ถ้าพูดถึงผู้เล่นที่โด่งดังที่สุดใน League of Legends เชื่อว่าหลายคนคงต้องนึกถึงเค้าคนนี้แน่นอน บุรุษที่ถูกยกย่องให้เป็นดั่งพระเจ้า Faker โดยวันนี้เราจะมาย้อนรอยประวัติของเค้าคนนี้กัน
เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับที่คนที่ไม่ได้เล่น League of Legends ยังรู้จัก สำหรับ Mid Laner ระดับตำนานจาก SK Telecom T1 อย่าง Faker เพราะเค้าเป็นผู้เล่นที่สามารถคว้าแชมป์โลกมาได้ถึง 3 สมัย รองแชมป์อีก 1 สมัย แค่นั้นยังไม่พอ เค้ายังคว้าแชมป์ MSI มาได้ถึง 2 ครั้ง อีกทั้งยังกวาดแชมป์ในลีกเกาหลีบ้านเกิดของตัวเองไปกว่า 9 ครั้งเลยทีเดียว
ด้วยความสามารถระดับเทพ ภาพลักษณ์ที่ดูดี อีกทั้งการันตีด้วยรางวัลเต็มบ้านขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลยที่เค้าจะถูกขนานนามให้เป็น พระเจ้าแห่งวงการเกม League of Legends โดยกว่าที่เค้าจะมาถึงจุดนี้ Faker เคยผ่านมาแล้วทั้งจุดสูงสุด หรือแม้กระทั่งจุดที่ตกต่ำสุดๆ แต่เกิดอะไรขึ้นบ้าง เราลองตามมาชมกัน
ประวัติ
Lee Sang-hyeok หรือที่เรารู้จักกันในนาม Faker เค้าเกิดในวันที่ 7 เดือนพฤษภาคม ปี 1996 โดยในเดือนหน้านี้เค้าก็จะมีอายุครบ 25 ปีพอดี Faker เกิดและเติบโตในกรุง Seoul ประเทศเกาหลีใต้ เค้าโตมาในครอบครัวพ่อเลี้ยงเดี่ยว โดย Lee Kyung Jun พ่อของเค้าเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าลูกของเค้าเกิดมาเพื่อเป็นโปรเพลยเยอร์
ในตอนเด็กเกม MOBA เกมแรกที่ Faker ได้เล่นคือ Chaos ก่อนที่เค้าจะย้ายมาเล่น League of Legends ช่วงเดือนธันวาคมปี 2011 หลังจากที่บังเอิญได้รู้จักเกมนี้ช่วงที่กำลังนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อย
หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก็ถูกแมวมองจากหลายทีมในโซนเกาหลีมาตามจีบทันที ซึ่งทีมแรกและทีมเดียวที่เค้าได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาเข้าก็คือ SK Telecom T1
ช่วงสร้างชื่อ
ในช่วงแรกนั้น Faker ลงเล่นให้กับทีมที่ 2 ของ SK Telecom T1 โดยผู้เล่นในทีมประกอบไปด้วย Impact, bengi, Piglet และ PoohManDu พวกเค้าเปิดตัวในรายการ OLYMPUS Champions Spring 2013 ด้วยอันดับ 1 ของกลุ่ม ก่อนที่จบรายการไปได้ที่อันดับ 3
ซึ่งในรายการนี้ Faker สร้างชื่อให้ตัวเองอย่างมาก ในเกมที่พวกเค้าจัดการทีม MVP Blue จนเละเทะ บวกกับที่ Faker มีจังหวะ Solo Kill Mid Laner จากทีม CJ Blaze อย่าง Ambition ไปได้อีกด้วย โดยแชมเปี้ยนที่เค้าเล่นได้โดดเด่นเอามากๆ ในรายการนี้คือ Leblanc
แต่ซีนที่น่าจดจำที่สุดของเค้าไม่ใช่ในรายการ OLYMPUS Champions Spring 2013 แต่เป็นใน Korea Regional Finals Season 3 รายการในปีเดียวกัน ที่แข่งเพื่อคัดทีมเข้าไปเล่นใน World Championship
ในรายการนี้ Faker สร้างช็อตในตำนานไว้ในคนทั้งโลกได้จดจำ ตอน SK Telecom T1 จะต้องเจอกับทีม KT Bullet โดยเค้าโชว์จังหวะเทพ Zed Vs Zed กับผู้เล่นชื่อดังอย่าง Ryu “Ryu” Sang-wook
ซึ่งถึงเค้าจะเลือดน้อยกว่า แต่ Faker ก็โชว์จัดการ Ryu ไปได้แบบเหนือชั้น จนถึงขนาดนักพากย์ต้องร้องเสียงหลงออกมาว่า “FAKER, WHAT WAS THAT!!” จนเป็นที่จดจำไปทั้งวงการ
พอมาใน Worlds 2013 SKT ก็โชว์ฟอร์มในรอบ Group Stage ได้เดือดสุดๆ จนสามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ของกลุ่มได้ด้วยสกอร์ 7-1 โดยพวกเค้าแพ้ Oh My God ไป 1 เกมเท่านั้น
ซึ่งพอผ่านเข้ามาเล่นใน Playoffs SK Telecom T1 ก็จัดการตบทุกทีมที่ขวางหน้า และคว่ำทีมของ Jian “Uzi” Zi-Hao อย่าง Royal Club มาได้ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้พวกเค้าคว้าแชมป์โลก และเงินรางวัลกว่า 1 ล้านเหรียญกลับไปนอนกอดได้สำเร็จ
หลังคว้าชัยใน Worlds 2013 มาได้ นั่นทำให้ชื่อเสียงของ Faker ดังกระฉ่อนมากขึ้นทันทีไปอีก ซึ่งหลังจบ Worlds ไป SKT ก็ยังคงทำผลงานในเกาหลีได้ดีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2014
ช่วงเวลาอันแสนยากลำบาก
ในปี 2014 SKT ทำผลงานได้ไม่สู้ดีนัก ทั้งในช่วง Spring และ Summer และเป็นอย่างนี้ยาวมาจนช่วงคัดทีมสู่ Worlds 2014 ในรายการ Korea Regional Finals ซึ่งพวกเค้าก็ฝ่าฟันจนมาถึงรอบสุดท้าย แต่ก็ต้องพ่ายให้กับ NaJin White Shield ไป 3-1 ปิดประตูการเข้ารอบเพื่อไปป้องกันแชมป์ของ SKT ทันที
และด้วยผลงานที่น่าผิดหวังทำให้ Impact และ Piglet ต้องโบกมือลาทีมไป ซึ่งทางทีมก็เลือกผู้เล่นอย่าง Marin, Easyhoon, Bang และ Wolf เข้าสู่ทีมในช่วงเวลานี้
โดยนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Faker มีคู่แข่งตำแหน่งเดียวกันในทีมคือ Lee “Easyhoon” Ji-hoon โดยทั้งคู่สลับกันลงเล่นตลอดทั้งซีซั่นของรายการ Champions Spring 2015 และคว้าตั๋วสู่รายการ MSI 2015 มาได้
โดยในช่วง Spring Season Faker ถึงขนาดให้สัมภาษณ์เลยว่า ผมรู้สึกดีใจนะที่ทีมเราชนะ แต่ผมกลับเสียใจอย่างบอกไม่ถูกที่ผมไม่ได้ลงเล่น
ซึ่งใน Mid-Season Invitational 2015 ทีม SKT สามารถผ่านมาได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยพวกเค้าต้องเจอกับทีมอย่าง EDward Gaming ซึ่งทางทีมตัดสินใจเลือกให้ Easyhoon ลงเล่นใน Mid ไปเจอกับ Heo “PawN” Won-seok
โดย Easyhoon เล่นไป 3 เกม ผลออกมาคือ 1-2 ทำให้พวกเค้าไม่สามารถแพ้ได้อีกแล้ว ทางทีมจึงตัดสินใจให้ Faker ลงเล่นแทน ซึ่งเค้าก็พาทีมเอาคืนมาได้ในเกมที่ 4 ก่อนที่จะพลาดท่าไปในเกมที่ 5 ทำให้พวกเค้าพลาดแชมป์ในรายการนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
หลังประสบความผิดหวังมาใน MSI 2015 ฟอร์มของทีมก็กลับมาเข้มอีกครั้งในช่วง Summer จนสุดท้ายพวกเค้าปิดรายการไปด้วยอันดับ 1 พร้อมตั๋วสู่ Worlds 2015
แชมป์โลกครั้งที่ 2 และ 3
ซึ่งใน Worlds 2015 นี้ ก็ไม่มีใครหยุดพวกเค้าได้เลย ตลอดรายการ SKT แพ้ไปแค่เกมเดียวเท่านั้นในช่วงชิงแชมป์กับ KOO Tigers
ซึ่งหลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ ในที่สุดพวกเค้าก็กลับมาทวงบัลลังก์ของตัวเองได้สำเร็จ หลังได้แชมป์โลกครั้งที่ 2 มา ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ Faker จะตั้งเป้าหมายครั้งต่อไป นั่นก็คือแชมป์ MSI รายการที่พวกเค้ายังไม่เคยเอาชนะได้
Faker กลับมาอีกครั้งใน MSI 2016 พร้อมโชว์ฟอร์มแชมป์โลก คว่ำ CLG ไปด้วยสกอร์ 3-0 มาถึงจุดนี้คงบอกได้แค่ว่า ไม่มีอะไรจะหยุดพวกเค้าลงได้แล้ว SKT มุ่งหน้าสู่ Worlds ต่ออีกครั้งในปี 2016
และในปี 2016 นี้ Faker ก็คว้าแชมป์โลกครั้งที่ 3 มาได้สำเร็จหลังจากแข่งกับ Samsung Galaxy ในรอบชิงอย่างดุเดือดและปิดสกอร์ไปได้ที่ 3-2
ปี 2017
ในปีถัดมา Bengi ก็ได้ออกจากทีมไป และได้ Peanut เข้าร่วมเสริมทัพทีม โดยใน MSI ปี 2017 นี้ SKT ก็สามารถคว้าแชมป์มาได้อีกสมัย ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ในเวทีระดับโลกได้อีกครั้ง
ส่วนใน Worlds 2017 นี้ นับว่าเป็นปีที่น่าเศร้ามากสำหรับ Faker พวกเค้าผ่านเข้าไปถึง Finals ได้แต่ก็ต้องพลาดท่าให้กับ Samsung Galaxy 3-0 และนั่นทำให้เราได้เห็นน้ำตาของท่านเทพเป็นครั้งแรก
ปี 2018-2019
พอในปี 2018 ฝันร้ายของ SKT ก็กลับมาอีกแล้ว เมื่อพวกเค้าไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นใน Worlds ได้อีกครั้ง ทำให้ในทีมต้องปรับผู้เล่นกันชุดใหญ่ และมีช่วงที่ Faker ถูกปรับให้เป็นตัวสำรองด้วยเพื่อหวังให้ผลงานในปี 2019 ดีกว่าเก่า
หลังจากได้ผู้เล่นฝีมือดีทั้ง Khan, Mata, Clid และ Teddy มาร่วมเสริมทัพ SKT ก็สามารถกลับมาคว้าแชมป์ LCK ได้อีกครั้ง ทำให้พวกเค้าได้ผ่านเข้าไปเล่นใน MSI 2019 ช่วงกลางปีได้
ซึ่งในรายการนี้ G2 Esports พึ่งได้ตัว Rasmus “Caps” Borregaard ผู้เล่น Mid Laner ฝีมือดีมาจาก Fnatic ทำให้ G2 ฟอร์มกลับมาร้อนแรงสุดๆ และ SKT ก็ไม่สามารถต้านทาน G2 ได้ พวกเค้าเจอกันในรอบ Semifinals ซึ่งเป็นฝ่าย G2 ที่ชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-2
SKT ที่พ่ายแพ้มาทำอะไรไม่ได้นอกจากกลับลีกตัวเองมาและคว้าแชมป์ใน Summer มาให้ได้เพื่อจะได้กลับไปล้างแค้น G2 ใน Worlds 2019 ซึ่งสุดท้าย SKT ก็ได้มาแข่งใน Worlds และได้เจอกับ G2 จริงๆ และเป็นในรอบ Semifinals อีกด้วย
แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นดังที่ SKT หวัง พวกเค้าพ่ายให้กับ G2 3-1 จบรายการไปด้วยอันดับ 3-4 ร่วมเท่านั้น
2020
ในปลายปี 2019 SKT ก็ได้รีแเบรนด์ใหม่สู่ชื่อ T1 และได้มีการปรับตัวผู้เล่นใหม่อีกครั้ง ซึ่งใน LCK Spring 2020 พวกเค้าสามารถกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง แถมได้ตั๋วสู่ MSI 2020 อีกต่างหาก แต่เป็นที่น่าเสียดายที่รายการต้องถูกยกเลิกไปเนื่องด้วยปัญหา COVID-19
พอมาใน Summer ฟอร์มของพวกเค้าก็เริ่มแย่ลงอีกครั้ง T1 ปิดรายการไปได้เพียงอันดับ 5 ทำให้พวกเค้าต้องไปลุ้นตั๋วสู่ Worlds 2020 ใน Regional Finals อีกที ซึ่งผลก็คือ T1 พ่ายให้ Gen.G ในรอบ Finals ทำให้ Faker พลาดโอกาสสู่ Worlds เป็นครั้งที่ 3
2021 ปีแห่งความหวัง ?!
T1 เปิดรายการ LCK Spring 2021 มาได้อยู่ในระดับกลางๆ ของตารางมาโดยตลอด โดยฟอร์มกลับมาดีขึ้นในช่วงหลังๆ ก่อนที่จะเข้ารอบ Playoff ไปพ่ายให้กับ Gen.G ใน Semifinals ด้วยสกอร์ 3-0
โดยช่วงนี้เราจะได้เห็น Faker กับ Lee “Clozer” Ju-hyeon สลับกันลงเล่นในเลนกลางอยู่เรื่อยๆ โดยหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง T1 จะกลับมาคว้าแชมป์ LCK และคว้าตั๋วสู่ Worlds 2021 ได้หรือไม่ เราคงต้องมาตามชมกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ เราคงได้เห็นแล้วว่าบุคคลผู้เป็นดังศูนย์กลางของทีมอย่าง Faker เค้าพาทีมผ่านมาแล้วทั้งจุดสูงและต่ำสุด ซึ่งถ้าสุดท้ายแล้วพวกเค้าไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน เราอาจจะได้เห็น Faker และ T1 กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งก็เป็นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปลี่ยนโค้ช! 100 Thieves แทนที่ Zikz ด้วยอดีตโค้ช Cloud9 อย่าง Reapered
