Top 10

ถึงเวลาเปิดโผ TOP 10 ทีม CS:GO ที่ดีที่สุดของปี 2020!

CSGO บทความ

นี่คือการจัดอันดับ TOP 10 ของทาง hltv.org สถิติและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะถูกรวบรวมไว้ที่นี่

เพื่อตัดสินว่าใครคือทีมที่ดีที่สุด โดยจะมีการพิจารณาจากจำนวนคะแนนที่พวกเขาได้รับตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทั้งโดยรวมและโดยเฉลี่ยต่อทัวร์นาเมนต์ที่เข้าร่วม ซึ่งจะไม่ได้นับแยกจากการปิดตัวลงของทีม หรือการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงของช่วงเวลาต่างๆ

ปี 2020 เป็นอีกหนึ่งในปีที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ CS:GO อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงมีจะมีการระบาดของเชื้อ COVID-19 แต่การแข่งขันยังต้องดำเนินต่อไป

ผลการแข่งขันรายการเดียว จะแยกเป็นทีมหลักสามทีมสำหรับตำแหน่งอันดับ 1 และตำแหน่งด้านล่างหลายตำแหน่ง ซึ่งจะมีอีกสามทีมเช่นกันที่พลาดตำแหน่งในอันดับต้นๆ

ตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า TOP 10 ทีมในช่วงปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างปี 2020 มีทีมไหนร่วงหรือขึ้นจากปีที่แล้วบ้างมาชมกัน

10. Faze

เริ่มต้นการนับถอยหลังทีมที่ดีที่สุด ด้วยทีม FaZe ซึ่งจบในปีด้วยอันดับ 10 โดยปีที่แล้วพวกเขานั้นได้อันดับที่ 9 จากปี 2019 หลังจากที่พวกเขาสละตำแหน่งทีมต่างประเทศหลายสัญชาติ ที่ดีที่สุดในปีที่แล้วไปเป็น mousesports แทนในปีนี้

ซึ่งชื่อของ Finn “⁠karrigan⁠” Andersen หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะเขาคืออดีต IGL เก่าประจำทีม FaZe ที่ในตอนนี้ได้ไปนำทัพให้ mousesports แทนแล้ว เช่นเดียวกับ OG และ Evil Geniuses ที่ทำได้ดีเยี่ยมในฐานะทีมรวมนักแข่งนานาชาติ

ในปี 2020 ช่วง 5 เดือนแรก ทั้งสามตัวหลักอย่าง Håvard “⁠rain⁠” Nygaard, Marcelo “⁠coldzera⁠” David และ Helvijs “⁠broky⁠” Saukants ยังคงเล่นกับ Olof “⁠olofmeister⁠” Kajbjer และ Nikola “⁠NiKo⁠” Kovač ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับทีม

ในช่วงนั้นพวกเขาทำได้ดีในการเจอกับทีมใหญ่ๆ ในระดับเดียวกัน ซึ่ง FaZe ดูโดดเด่นในกลุ่มของพวกเขามาก เช่นในการแข่งขัน BLAST Premier Spring Series และเข้าเส้นชัยรอบตัดเชือกที่ IEM Katowice ได้สำเร็จ โดยแพ้เพียงแค่ Natus Vincere และเสียแชมป์ให้กับพวกเขาไปในที่สุด

นั่นคือการแข่งขัน LAN ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเริ่มยุคออนไลน์ หลังจากนั้นใน ESL Pro League และ Road to Rio จบลง olofmeister ก็ก้าวลงมาจากตำแหน่งตัวจริงของทีม ซึ่งมันทำให้ FaZe กลับไปจมอยู่ในความโกลาหลอีกครั้ง คล้ายกับตอนที่มือปืนชาวสวีเดนคนนี้หยุดพักไปในปี 2018

ก่อนหน้านี้ทีมทดลองใช้ผู้เล่นอย่าง Aurimas “⁠Bymas⁠” Pipiras เป็นระยะเวลาสั้นๆ หลังจากเส้นทางในการแข่งขัน FPL จบลง พวกเขารีบเซ็นเด็กหนุ่มวัย 17 ปี เข้าทีมอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเริ่มต้นได้ดีด้วยการคว้าอันดับที่สามติดต่อกันสองครั้งใน DreamHack Masters Spring และ BLAST Premier Spring

ถึงแม้จะมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจก็ตาม แต่เด็กหนุ่มชาวลิทัวเนียดูเหมือนจะไม่เหมาะสมกับบทบาทที่เขาได้รับใน FaZe สักเท่าไหร่ ทีมจึงมองไปที่ตัวเลือกอื่น หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาได้มีการเปลี่ยนตัว โดยนำผู้เล่นมากประสบการณ์ Markus “⁠Kjaerbye⁠” Kjærbye มาเข้าทีมแทนที่ Bymas ในช่วงพักฤดูร้อน

เฉพาะใน IEM New York เท่านั้นที่ทีมสามารถเข้าใกล้คำว่าความสำเร็จ หลังจากเปลี่ยนบทบาทบางอย่างในทีม และ NiKo ดาวดังประจำทีมเริ่มส่งสัญญาณว่าจะไม่อยู่ต่อแล้ว เนื่องจากการเล่นกับ FaZe มีความกดดันสูงกับบทบาทที่เขาได้รับมา เขาจึงเริ่มมองหาทีมใหม่และทีมนั้นก็คือ G2

เมื่อการเคลื่อนไหวดังกล่าวของ NiKo สิ้นสุดลงในอีกหนึ่งเดือนต่อมา FaZe ก็หันไปหา olofmeister เพื่อมาแทนที่เขา ซึ่งเขากลับมาเล่นในสี่ทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของปี และประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย นอกเหนือจากการแข่งขันรอบรองชนะเลิศใน IEM Beijing-Haidan แล้วรวมถึงในฝั่งยุโรปยังมีการออกรอบแบ่งกลุ่มอีก 3 ครั้ง ท้ายที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะเข้าใกล้ 5 อันดับแรกของโลก แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย

9.Fanatic

ทีมที่ดีที่สุดอันดับห้าของปี 2019 fnatic คว้าอันดับที่เก้าในปี 2020 นี้ไปได้ เมื่อพวกเขาต้องมาอยู่อันดับใกล้เคียงกับ FaZe หลังจากปีนี้ที่มีฟอร์มขึ้นและลงสลับกันไปมาตลอดทั้งปี ในฐานะหนึ่งในทีมเพียงไม่กี่ทีมที่ไม่ได้เปลี่ยนผู้เล่นในช่วงเวลาใดเลย

ในระหว่างปีนี้ fnatic ไม่ได้มีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก แต่มีการเริ่มต้นปีที่ยอดเยี่ยม และการแข่งขันเพลย์ออฟสองสามครั้งทำให้พวกเขาอยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุด สี่เดือนแรกเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับ fnatic

ผู้ซึ่งเก็บชัยชนะได้ในปี 2019 มาอย่างมากมาย หลังจากจบการแข่งขันรอบรองชนะเลิศใน ESL Pro League Season 10 Finals ในเดือนธันวาคม ถึงรอบรองชนะเลิศของ IEM Katowice เป็นทีมเดียวที่เอาชนะ Natus Vincere ได้สำเร็จ พวกเขาโดดเด่นมากสำหรับงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีนั้น

หลังจากที่เกิดโรคระบาด และฉากการแข่งขันเปลี่ยนไปสู่สภาพแวดล้อมของการเล่นแบบออนไลน์ล้วนๆ พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วด้วยชนะแคมเปญที่ได้รับรางวัลใน ESL Pro League Season 11 Europe นั้นช่วยให้พวกเขาไปถึงอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับประจำสัปดาห์เมื่อปลายเดือนเมษายน

แต่เมื่อยุคออนไลน์ก้าวเข้ามา fnatic ก็เริ่มมีผลงานลดลง และไม่สามารถแข่งขันเพื่อชิงถ้วยรางวัลได้อีกเลย ในขณะที่ทีมอย่าง BIG และ Vitality เริ่มเหนือกว่าพวกเขา ในช่วงท้ายของฤดูกาล ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการจบอันดับแปดใน DreamHack Masters Spring และอันดับที่หกในการจัดอันดับภูมิภาคครั้งที่สองคือ cs_summit 6 และพวกเขาก็ไม่ดีขึ้นอีกเลยหลังจากหยุดพักมา

ช่วงที่สองของฤดูกาลดูยากเป็นพิเศษ สำหรับทีมที่นำโดย Golden เมื่อพวกเขาเริ่มต้นแคมเปญการแข่งขัน ด้วยการออกจากรอบแบ่งกลุ่มสองสามรายการใน ESL One Cologne และ ESL Pro League Season 12 ก่อนสิ้นปี 2020 พวกเขาสามารถเพิ่มอับดับของทีม ให้สูงในการแข่งขันอีกสองครั้ง แต่ถือเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างน้อยที่สุดในสี่ทัวร์นาเมนต์ที่พวกเขาเข้าร่วม IEM New York และ Flashpoint 2 ขณะเดียวกันก็เก็บคะแนน RMR ที่มีส่วนสำคัญใน DreamHack Open Fall

8.FURIA

FURIA หลังจากเดบิวต์ในฐานะ 20 อันดับแรกเมื่อปีที่แล้ว พวกเขานั้นได้อันดับที่ 14 แม้จะถูกล็อกภูมิภาคเป็นเวลาเกือบปีสำหรับฤดูกาล 2020 แต่ทีมจากบราซิลก็เอาชนะ FaZe และ fnatic ได้เพียงเล็กน้อย และเพิ่งพลาดการขึ้นไปอันดับที่ 7 ไปหมาดๆ

จากการถูกเปรียบเทียบต่างๆ นาๆ ในฐานะหนึ่งในสองทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอเมริกาเหนือ สองสามเดือนที่เปิดตัวของปีนี้ค่อนข้างไม่ราบรื่นสำหรับ FURIA เนื่องจากพวกเขาเข้าร่วม DreamHack Open Anaheim ก่อนที่ทุกอย่างจะปิดตัวลงเนื่องจากไวรัส และพวกเขาก็จบการแข่งขันแบบ LAN โดยแพ้ให้กับ Gen.G และมันน่าเสียดายเป็นอย่างมาก

พวกเขาไม่ได้เล่นในงานใหญ่ใดๆ อีกเลย ที่สำคัญที่สุดคือขาดการเล่นใน IEM Katowice ไป และต้องเผชิญหน้ากับทีมที่ดีที่สุดในภูมิภาคของพวกเขา เมื่อยุคออนไลน์เริ่มต้นในปลายเดือนมีนาคม ตอนแรกทีมบราซิลล้าหลังคู่แข่งบางทีมเป็นอย่างมาก โดยชื่อหนึ่งที่พวกเขาจะต้องจดจำคือทีม Liquid และอีกชื่อหนึ่งเป็นของ Gen.G สำหรับในช่วงสองเดือนแรกของปี

ช่วงกลางฤดูกาล FURIA ได้ถ้วยรางวัลจาก DreamHack Masters Spring และ DreamHack Open Summer หลังจากที่พวกเขาต้องฝ่าฟันอย่างหนัก พวกเขาเริ่มท้าทายทีมที่ยิ่งใหญ่ในอเมริกาเหนือทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จนั้นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อน จนถึงในเดือนกันยายนและตุลาคม

ทีมที่นำโดย Piovezan ได้รับตำแหน่งชนะเลิศอีกสองรายการ ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปยุโรปในช่วงสิ้นปี ในขณะที่อยู่ในเซอร์เบีย FURIA พยายามดิ้นรนเพื่อแข่งขันอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากแคมเปญการแข่งขันที่มั่นคงใน DreamHack Masters Winter ซึ่งสิ้นสุดปีนี้ด้วยการออกจากรอบแบ่งกลุ่มใน IEM Global Challenge หลังจากล้มเหลวจากการแข่งขัน BLAST Premier Fall Finals ซึ่งพวกเขาได้อันดับที่ 5-6 ในตอนจบของ Event

7.Liquid

ยอดทีมนักไต่อันดับสำหรับปี 2019 ตอนนี้ปี 2020 พวกเขามาในอันดับที่ 7 ด้วยฐานะทีมที่ดีที่สุดและคงเส้นคงวาที่สุดในอเมริกาเหนือ ซึ่งผ่านหลายช่วงเวลาในปี 2020 ทั้งในด้านการแข่งขันและจากมุมมองของบัญชีรายชื่อ ทีม Liquid ทีมสัญชาติอเมริกาเหนือมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในช่วงต้นปี

เมื่อสิ้นสุดการเดินทางไปยุโรป Liquid อันดับของพวกเขาเริ่มหนีห่างทีมอื่นๆ ในอเมริกาเหนือไปเรื่อยๆ ก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่า ทีมจะยังคงต้องอยู่ในภูมิภาคของอเมริกาเหนือเกือบทั้งปี โดยคว้าอันดับสองในกลุ่มของพวกเขาที่ BLAST Premier Spring Series และเข้ารอบตัดเชือกที่ IEM Katowice พวกเขายังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง หลังเดินทางกลับมาจากยุโรป และต้องแข่งขันในโซนของพวกเขาอย่างเดียวหลังจากนี้

การแข่งขันแบบออนไลน์ของพวกเขา เริ่มต้นด้วยแคมเปญการแข่งขันที่ได้รับรางวัลชนะเลิศใน ESL Pro League Season 11 ของอเมริกาเหนือ ซึ่งช่วยเพิ่มความได้เปรียบมาก แม้ว่าคู่แข่งรายอื่นบางรายจะเอาชนะพวกเขาไปสู่ชัยชนะในทัวร์นาเมนต์ต่อไปได้ แต่ Liquid ก็มักจะอยู่ที่นั่นเพื่อชิงถ้วยรางวัลเช่นเดียวกันเสมอ ในขณะที่พวกเขาได้อันดับสองและอีกสองการแข่งขันที่พวกเขาได้สี่อันดับแรก ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงช่วงกลางฤดูกาล

ในช่วงพักนั้น Liquid ได้แต่งตั้ง Jason “⁠moses⁠” O’Toole เป็นโค้ชคนใหม่ของพวกเขา และเลือก Michael “⁠Grim⁠” Wince มาแทนที่ Nick “⁠nitr0⁠” Cannella ตอนนี้ทีมที่นำโดย Jake “⁠Stewie2K⁠” Yip ได้รับรางวัลเหรียญเงินอีกครั้งใน ESL One Cologne ถือว่าสวยงามสำหรับการเปิดตัวกับผู้เล่นใหม่ของทีม

ส่วนการแข่งขันที่เหลือของพวกเขาในอเมริกาเหนือจบลงที่รอบก่อนชิงชนะเลิศ ส่วน FURIA และ Evil Geniuses ทำได้ดีกว่าพวกเขาสำหรับ ESL Pro League Season 12 และในการแข่งขัน RMR รอบสุดท้าย IEM New York ก็เช่นกัน เหมือนกับ FURIA ทีม Liquid ก็เดินทางไปยุโรปโดยไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

ในที่สุดสิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากทีมบราซิล ก็คือการประสบความสำเร็จครั้งสุดท้ายกับ Russel “⁠Twistzz⁠” Van Dulken ใน IEM Global Challenge ซึ่งการเข้าเส้นชัยในอันดับสองได้สำเร็จ

6.Heroic

Heroic มาในกลุ่มของทีมที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ในปีนี้และได้รับการพิจารณาให้เป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อทีมใหญ่ สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปีหลังก้าวกระโดดจากท้ายตาราง ไปยังระดับสูงสุดตอนนี้ ในช่วงต้นปีทีมรวมชาวเดนมาร์กอยู่ในอันดับที่ 15 ของการจัดอันดับ และหลังจากไม่สามารถผ่านเข้ารอบ IEM Katowice พวกเขาจึงเล่นในทัวร์นาเมนต์เล็กๆ บางรายการหลังจากนั้น

เช่น DreamHack Open Leipzig และ ICE Challenge ไม่นานนักในปีต่อมาหลังจากที่พวกเขาย้ายไป FunPlus Phoenix ผู้เล่นอย่าง Nikolaj “⁠niko⁠” Kristensen และ René “⁠TeSeS⁠” Madsen ได้พา Patrick “⁠es3tag⁠” Hansen และ Marco “⁠Snappi ⁠” Pfeiffer ไปสู่จุดสูงสุดของการเล่นอาชีพในเวลาต่อมา

การคาดเดาถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ความสำเร็จที่โดดเด่นครั้งแรกของพวกเขาคือการจบ 4 อันดับแรกในกิจกรรม RMR ครั้งที่สองคือ cs_summit 6 ในเดือนกรกฎาคม เมื่อการแข่งขันกลับมาหลังจากช่วงพักฤดูร้อน Heroic เป็นหนึ่งในทีมกลุ่มแรกๆ ที่เริ่มเตรียมความพร้อมและอุ่นเครื่องด้วยการจบอันดับสองใน DreamHack Open Summer ก่อน ESL One Cologne จะมาถึง

ซึ่งพวกเขาคว้าตำแหน่งใหญ่ที่สุดครั้งแรกของปี หลังจากเอาชนะทีมอย่าง fnatic, G2 และ Vitality ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่าความสำเร็จในการเอาชนะ Major นั้นมันไม่ได้เป็นเพียงความบังเอิญ เนื่องจาก Heroic ประสบความสำเร็จกับ DreamHack Open Fall ในเวลาไม่ถึงสองเดือนต่อมา และขึ้นสู่อันดับ 1 ในการจัดอันดับในช่วงสองสามสัปดาห์ตอนนั้น

เท่าที่ผ่านมา ชัยชนะในการแข่งขัน RMR เป็นทีมสุดท้าย ถือว่าสุดยอดแล้วสำหรับทีมจากเดนมาร์ก แต่ Casper “⁠cadiaN⁠” Møller & co ยังคงต้องให้พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุด เนื่องจากพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกใน IEM Beijing-Haidan และ DreamHack Masters Winter ได้สำเร็จ

5.G2

ในการกลับมาสู่จุดสูงสุดขององค์กรอีกครั้ง G2 ยังคงก้าวเดินต่อไป พวกเขานั้นมาจากอันดับที่ 14 ของปี 2018 และอันดับที่ 12 ของปี 2019 ในขณะที่ทีมเข้ารอบห้าอันดับแรกในปี 2020 ได้สำเร็จ ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณครึ่งปีแรกที่น่าประทับใจ

หลัง G2 ก้าวเข้าสู่ปี 2020 ด้วยความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับองค์กร CS:GO ของฝรั่งเศส – บอลข่าน พวกเขาชนะในกลุ่มการแข่งขันที่ BLAST Premier Spring Series และทำได้อย่างไม่น่าเชื่อในทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดประจำปีอย่าง IEM Katowice พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของที่ยิ่งใหญ่ พร้อมกับชัยชนะในตอนนั้นเหนือ mousesports, Liquid และ fnatic

ในช่วงสองสามเดือนต่อมาฟอร์มของ G2 มีความผันผวนเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาออกจากการแข่งขันในช่วงต้นของรอบแบ่งกลุ่มไปอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้นพวกเขาสามารถเข้าแข่งขันรอบเพลย์ออฟได้ นี่คือทีมที่นำโดย IGL มากความสามารถอย่าง Nemanja “⁠nexa⁠” Isaković

พวกเขาเข้ารอบการแข่งขันชิงชนะเลิศอีก 2 รายการ นั่นคือ ESL One: Road to Rio และ DreamHack Masters Spring และไปปรากฏตัวช่วงสั้นๆ ที่อันดับสูงสุดในช่วงกลางเดือนมิถุนายน

การแข่งขันของพวกเขาได้รับความนิยมอย่างมาก หลังมีการเซ็นสัญญากับ NiKo โปรเพลย์สุดเทพชาวบอสเนีย จาก FaZe การมาของเขาทำให้เกิดการแข่งขันระหว่าง 2 ตัวจริงอย่าง Audric “⁠JaCkz⁠” Jug และ François “⁠AmaNEk⁠” Delaunay ว่าใครจะอยู่ใครจะไป โดยจะตัดสินที่ IEM Beijing-Haidian และสุดท้าย JaCkz ก็ต้องออกจากทีม ซึ่งครั้งนั้นพวกเขาจบอันดับที่ 3-4

4.BIG

ถ้าเราเปรียบเทียบฤดูกาลนี้ของ BIG กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาจะถูกเรียกว่าอะไร ทีมก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นทีมที่ “ทำได้ดีที่สุดแล้ว” แม้ว่าจะห่างไกลจากการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งทีมชั้นนำแห่งปี แต่ทีมจากเยอรมันก็จบปี 2020 ด้วยอันดับสี่ที่น่าประทับใจ

มีข้อบ่งชี้บางอย่างว่าทีมจะปรับปรุงในหลายๆ ตำแหน่ง หลังจากทำผลงานอย่างไร้ที่ติใน DreamHack Open Leipzig ซึ่งพวกเขาเอาชนะ Virtus.pro, Renegades และ Heroic ระหว่างทางไปสู่ตำแหน่งแชมป์

ในช่วงสี่เดือนต่อจากนี้ ถ้าไม่นับในทัวร์นาเมนต์เล็กๆ เช่น Home Sweet Home Cups ทีม BIG ถือว่าทำได้ดีในเวทีใหญ่ เนื่องจากเราไม่ได้เห็นการเล่นของ Johannes “⁠tabseN⁠” Wodarz จนกระทั่งถึงช่วงกลางปี และเมื่อเขากลับมานั่นคือตอนที่ BIG โผล่ออกมาแย่งซีนในการแข่งขัน DreamHack Masters Spring และ cs_summit 6 ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

พวกเขาคว้าแชมป์รายการแบบแบ็คทูแบ็ค เพื่อก้าวขึ้นเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลกนานกว่า 1 เดือนครึ่ง ด้วยชัยชนะที่ DreamHack Open Summer ทีมจากเยอรมันเกือบจะไม่ประสบความสำเร็จในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ Heroic, Vitality และ Astralis ได้แบ่งถ้วยรางวัลที่เหลืออยู่กันอย่างถ้วนหน้า

นอกเหนือจากหายนะครั้งสุดท้ายที่เกิดใน ESL One Cologne แล้ว BIG ยังคงต่อสู้ในระดับการแข่งขันระดับสูงได้ดี เมื่อพวกเขาเข้ารอบปีนี้ด้วยอันดับที่สามในรอบชิงชนะเลิศ BLAST Premier Fall และสี่อันดับแรกใน IEM Global Challenge มันทำให้พวกเขายังคงเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมในระดับชั้นนำจนถึงตอนนี้

3.Vitality

TOP 10

พวกเขาจบปีนี้ด้วยอันดับที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ 2 แล้วที่พวกเขาจบด้วยอันดับนี้ สำหรับ Vitality พวกเขาไล่ต้อนทีมในอันดับต้นๆ มาอย่างใกล้ชิดจนหมดปี 2020 ซึ่งพวกเขาจัดเต็มจนถึงงานสุดท้ายของปีและประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคม

อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดพวกเขาพลาดตำแหน่งสูงสุดไป เนื่องจากผลงานที่ท่วมท้นในช่วงห้าเดือนแรกของ Natus Vincere และ Astralis ขณะที่ Alex “⁠ALEX⁠” McMeekin ยังคงเป็นหัวหน้าทีมให้กับ Vitality พวกเขาก้าวเข้าสู่ปี 2020 มันเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อพวกเขาจบอันดับสามของกลุ่มในการแข่งขัน BLAST Premier Spring Series และอันดับ 9-12 ที่ IEM Katowice ในเดือนมีนาคม

หลังจากนั้น ALEX ผู้นำในเกมชาวอังกฤษได้ก้าวลงจากตำแหน่ง ก่อนที่การระบาดของ COVID-19 จะเริ่มขึ้น และทีมฝรั่งเศสได้แต่งตั้งให้ Dan “⁠apEX” Madesclaire เป็นกัปตันและนำ Kévin “⁠misutaaa” Rab ที่ยังไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่เข้าสู่ทีม เพื่อต่อสู้กับการแข่งขันออนไลน์ครั้งแรกกำลังจะเกิดขึ้น

ในที่สุดผู้เล่นตัวจริงก็เริ่มเข้าขากันในช่วงฤดูร้อน โดยได้ไปถึงรอบสุดท้ายอย่างยิ่งใหญ่ติดต่อกัน 2 รายการใน BLAST Premier Spring Finals และ cs_summit 6 Europe โดยเสียตำแหน่งแชมป์ทั้งสองตำแหน่งให้กับทีมรองบ่อนอย่าง Complexity และ BIG

ทีม Vitality ถูกมองว่าเป็นทีมเพื่อนพระเอกเสมอ พวกเขาจะไปอยู่ในอันดับ 2 หรือไม่ก็ 3 บ่อยครั้ง หลังจากได้รับตำแหน่งที่ 2 อีกสองแห่งหลังจากปิดฤดูกาลใน ESL One Cologne และ DreamHack Open Fall ลงไป คราวนี้เป็นทีม Heroic ที่ได้รับการปรับปรุงและต้องรอจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนสำหรับตำแหน่งแรกของพวกเขา

และแล้วรางวัลสูงสุดของพวกเขาก็มาถึงเมื่อ Vitality เซ็นสัญญากับ Nabil “⁠Nivera⁠” Benrlitom มาเป็นผู้เล่นคนที่ 6 และปูทางไปสู่แนวทางการเล่นรูปแบบใหม่ ด้วยบัญชีรายชื่อที่ขยายออกไป กลายเป็นทีมแรกที่สลับผู้เล่นระหว่างแผนที่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พวกเขามองหาเหรียญเงินอีกเหรียญก่อนที่พวกเขาจะกวาด Natus Vincere ลงหลุม ด้วยการโต้กลับในรอบชิงชนะเลิศ IEM Beijing-Haidan

เพียงสองสัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็เอาชนะ Astralis ได้ในรอบชิงชนะเลิศที่ BLAST Premier Fall เพื่อรับสองถ้วยรางวัลของปี 2020 เมื่อถึงจุดนั้น Vitality ขึ้นสู่อันดับสูงสุดของโลก เป็นระยะเวลาหนึ่ง

แต่ความหวังของพวกเขาที่จะจบปีนี้ด้วยอันดับ 1 ถูกทำลายลงในรอบแบ่งกลุ่มของการแข่งขัน IEM Global Challenge ครั้งสุดท้ายของปี ซึ่ง Astralis กำจัดพวกเขาออกจากเส้นทางในตอนจบ ปิดปีนี้ไปอีกเพียงเอื้อมมือพวกเขาก็จะทำฝันได้เป็นจริง

2.Natus Vincere

TOP 10

Natus Vincere ได้รับการปรับปรุงทีมขึ้นมาจากอันดับที่แปดเมื่อปีที่แล้ว โดยสำหรับยักษ์ใหญ่ CIS ที่นำ Ilya “⁠Perfecto⁠” Zalutskiy มาแทนที่ Ladislav “⁠GuardiaN⁠” Kovács ปีนี้ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการไต่ไปสู่อันดับที่สองใน ICE Challenge เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์

ตามมาด้วยการเป็นผู้ชนะของกลุ่มในการแข่งขัน BLAST Premier Spring Series เหนือ Astralis, Vitality และ Complexity อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือแคมเปญการแข่งขันที่โดดเด่นของพวกเขา เกิดขึ้นที่ IEM Katowice ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบ LAN ขนาดใหญ่เพียงครั้งเดียวในปี 2020

Aleksandr “⁠s1mple⁠” Kostyliev & co นำทีมและผู้เล่นคนอื่นๆ ไปไกลอย่างไม่น่าเชื่อ เขามีจิตวิญญาณแห่งผู้นำและทำมันได้ดีมากๆ อีกด้วย เมื่อการแพร่ระบาดของโรคร้ายทำให้ทุกอย่างต้องเข้าสู่โลกการแข่งขันแบบออนไลน์ NAVI เริ่มแสดงจุดอ่อนบางประการสำหรับการเล่นแบบนี้ การเล่นของพวกเขาเริ่มแกว่งในช่วง 4 เดือนแรกของยุคเปลี่ยนผ่านการแข่งขัน

แต่เมื่อสิ้นสุดในช่วงแรกของฤดูกาล พวกเขาได้เพิ่มถ้วยรางวัลระดับภูมิภาคอีกหนึ่งรายการสำหรับกิจกรรมการแข่งขันจาก RMR ครั้งที่สองอย่าง WePlay! หลังจากกลับมาจากการหยุดพัก Natus Vincere ก็ล้มเหลวใน ESL One Cologne แต่ก็คัมแบ็คได้อย่างรวดเร็วโดยสามารถชนะในรอบแบ่งกลุ่มได้ถึงสองรอบสำหรับช่วงหลังของปี 2020

ด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศใน ESL Pro League Season 12 ยักษ์ใหญ่ CIS ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในการแข่งขันระดับภูมิภาค แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขายังคงเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมในระดับสากล เมื่อพวกเขาจบปีด้วยการไต่อันดับโลกมาเรื่อยๆ ด้วยการแข่งขันอีกสามครั้ง รวมถึงได้เหรียญเงินอีกเหรียญใน IEM Beijing-Haidan

เช่นเดียวกับ Vitality ทีม Natus Vincere พยายามเป็นอย่างมากในการแข่งกันเพื่อเป็นที่ 1 จนกระทั่งการแข่งขันสูงสุดมาถึงใน IEM Global Challenge ซึ่งพวกเขาแพ้ Astralis ในรอบรองชนะเลิศ มันสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนจากศึกครั้งนี้ เมื่อทีมจากเดนมาร์กชนะพวกเขาได้ มันทำให้ Astralis ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งอย่างไร้ข้อกังขา

1.Astralis

TOP 10

Astralis ปิดฉากปี 2020 ในฐานะทีมที่ดีที่สุดเป็นปีที่สามติดต่อกัน แม้ว่ากรณีนี้ของพวกเขาจะอยู่ในยุคที่เกิดความผิดปกติ และคาดเดาอะไรไม่ได้เลย นี่อาจเป็นปีที่พวกเขาต้องเจองานหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 แต่ทีมรวมดาวชาวเดนมาร์กก็สมควรได้รับรางวัลชนะเลิศสี่รายการใหญ่ มากกว่าคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดถึงสองรายการ ได้แก่ Natus Vincere และ Vitality

การแข่งขันตลอดทั้งปี ซึ่งรวมถึงงานที่สำคัญที่สุดของปีอย่าง 2020 IEM Katowice การเข้าเส้นชัยสี่อันดับแรกทำให้พวกเขานั้นทิ้งห่าง Vitality สำหรับในช่วงต้นปี ทีมสัญชาติฝรั่งเศสพยายามดิ้นรนเพื่อทำผลลัพธ์ออกมาให้ดีที่สุด และทีมมีการเปลี่ยนแปลง IGL ในสองสามเดือนต่อมา

Astralis เริ่มทิ้งห่าง Natus Vincere ไปเรื่อยๆ NAVI นั้นโดดเด่นใน ESL Pro League Season 11 และการชัยชนะครั้งแรกที่ ESL One: Road to Rio ช่วงเวลานั้น Vitality ยังคงล้าหลังพวกเขาอยู่พอสมควร หลังจากจบการแข่งขันทำได้เพียงสี่อันดับแรกในสี่ทัวร์นาเมนต์

และนี่คือ TOP 10 ของทีมที่ดีที่สุดในปี 2020 ที่ผ่านมา ทุกๆ ทีมแสดงให้เห็นแล้วว่า แม้จะต้องเปลี่ยนมาสู่ยุคการแข่งขันแบบออนไลน์ เพราะการระบาดของโรคร้ายก็ไม่ทำให้พวกเขานั้นย้อท้อ เป็นปีที่หนักหนาสาหัสของทุกวงการเกมจริงๆ

ข่าวทีเกี่ยวข้อง : เวลาได้หมดลงแล้ว.. KHRN ผู้เล่นมากประสบลาวงการ CS เรียบร้อย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *